สมาชิก
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เสด็จพิพิธภัณฑ์บ้านป้าทุ้ม-ป้าไท้ ทรงงานพัฒนาผ้าทอ

เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เสด็จพิพิธภัณฑ์บ้านป้าทุ้ม-ป้าไท้ ทรงงานพัฒนาผ้าทอ

-ก+

แชร์ข่าว

"เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ" เสด็จไปทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์บ้านป้าทุ้ม-ป้าไท้ และทรงงาน ณ ศูนย์แสดง จำหน่าย ออกแบบ ผลิตภัณฑ์ผ้าคราม ไหมย้อมคราม

วันที่ 24 มกราคม 2566 เวลา 13:30 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปยังพิพิธภัณฑ์บ้านป้าทุ้ม-ป้าไท้ บ้านหนองแข้ หมู่ที่ 5 ตำบลตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร พันเอก ระลึก คนใหญ่ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 29 ตลอดจน ข้าราชการ และประชาชนในพื้นที่ เฝ้ารับเสด็จ

โอกาสนี้ เสด็จทอดพระเนตรการจัดแสดงฉลองพระองค์ไหมมัดหมี่ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และผ้าทอโบราณลายต่างๆ อาทิ ผ้าลายโบราณเครือสองข้อ ผ้าลายดางแห ผ้าลายใยแมงมุมเล็ก ฯลฯ

จากนั้น เสด็จทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์ผ้าไทย และงานหัตถกรรมชุมชน ของกลุ่มผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP จำนวน 22 กลุ่ม และเสด็จเข้าศูนย์แสดง จำหน่าย ออกแบบ ผลิตภัณฑ์ผ้าคราม ไหมย้อมคราม เพื่อทรงงานด้านผ้าไทยร่วมกับกลุ่มศิลปาชีพ จำนวน 13 กลุ่ม และทอดพระเนตรการแสดงมนต์เสน่ห์ภูไท

นายสุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เคยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรบ้านหนองแข้ ตำบลตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร โดย "บ้านป้าทุ้ม-ป้าไท้ ราษฎรบ้านหนองแข้" เป็นหนึ่งในบรรดาบ้านเรือนราษฎรหลายร้อยหลังที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงเสด็จเยือนโดยไม่มีกำหนดการล่วงหน้า และทรงเยี่ยมถึง 3 ครั้ง ใน พ.ศ.2521 พ.ศ.2523 และ พ.ศ.2525

โดยทรงถามไถ่ทุกข์สุขของราษฎรอย่างใกล้ชิด และทรงฟื้นฟูการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมพันธุ์พื้นเมืองของไทยและการทอผ้า โดยทรงรับราษฎรบ้านหนองแข้เป็นสมาชิกศิลปาชีพ เพื่อให้มีรายได้เสริมจากการทอผ้า รวมทั้งพระราชทานฉลองพระองค์ผ้าไหมมัดหมี่ให้นางไท้ แสงวงค์ ไว้เป็นต้นแบบอนุรักษ์ลวดลายโบราณ ซึ่งด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และราษฎรบ้านหนองแข้จึงร่วมกันจัดตั้ง "พิพิธภัณฑ์บ้านป้าทุ้ม-ป่าไท้" ขึ้น เพื่อสืบทอดความภาคภูมิใจ ความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และความทรงจำอันงดงามให้คงอยู่เป็นสมบัติของลูกหลานชาวบ้านหนองแข้สืบไป

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวว่า นับเป็นความโชคดีของพวกเราคนไทยทุกคนที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงตั้งพระปณิธานที่แน่วแน่ในการแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานด้านศิลปาชีพที่พระองค์ท่านได้โดยเสด็จตามสมเด็จย่าของพระองค์เยี่ยมเยียนราษฎร และทรงเรียนรู้ซึมซับพระราชกรณียกิจ มาตั้งแต่เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ในทั่วทุกภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย ทำให้ทรงรับรู้ความสำคัญของการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่บรรพบุรุษไทยได้สร้างสรรค์และสืบทอดมาอย่างต่อเนื่องจากอดีตสู่ปัจจุบัน และทรงรับงานศิลปาชีพในสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงมาเป็นพระราชภาระเพื่อทรงสืบสานพระราชกรณียกิจที่สำคัญยิ่งนี้

"สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงนำประสบการณ์ส่วนพระองค์ทั้งจากการทรงงาน และทรงศึกษาผ้าทอพื้นเมืองมาพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาผ้าไทยให้ทันสมัย เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ แต่ยังคงไว้ซึ่งลวดลายของผืนผ้าที่สื่อถึงความเป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาค ด้วยพระปรีชาสามารถด้านการออกแบบที่นำสมัยจึงทรงนำมาประยุกต์ปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสมกับยุคสมัยได้อย่างสวยงาม สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับช่างทอผ้าทุกท้องถิ่น ท้องที่ ผ่านโครงการพระดำริ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" และพระราชทานลายผ้า เช่น ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ลายขิดนารีรัตนราชกัญญา ลายท้องทะเลไทย ลายป่าแดนใต้ เป็นต้น" ดร.วันดี กล่าว

ดร.วันดี กล่าวเพิ่มเติมว่า การเสด็จทรงงานในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในครั้งนี้ เป็นการเสด็จตามรอยพระบาทยาตรา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการทรงเยี่ยมเยียนพร้อมทั้งพระราชทานพระดำริในการสืบสาน รักษา และต่อยอด ภูมิปัญญาการถักทอผ้า อันเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ได้สืบทอดมาแต่ครั้งบรรพบุรุษ เพื่อทำให้ภูมิปัญญาผ้าไทยเหล่านี้ได้รับการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ทำให้พี่น้องประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง เพิ่มพูน อันจะนำมาซึ่งความอยู่ดีกินดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน.