ในหลวง-พระราชินี ทรงเยี่ยมราษฎรชาวพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียง หลังจากเสร็จสิ้นพระราชกรณียกิจ โดยทรงมีพระราชปฏิสันถารกับประชาชน ความสำคัญตอนหนึ่งว่า "ต้องรักษาความดี ความมีเมตตา"
เมื่อเวลา 19.18 น. วันนี้ (21 พ.ย.) หลังจากเสร็จสิ้นพระราชกรณียกิจ ในการทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลแขวงพระนครศรีอยุธยาแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินออกบริเวณหน้าศาลแขวงฯ ทรงพระดำเนินเยี่ยมราษฎร ที่ไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จที่บริเวณด้านหน้าศาลแขวงเป็นจำนวนมาก โดยพสกนิกรต่างพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลือง อันเป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพในรัชกาลที่ 10 และได้เดินทางมาจากพื้นที่ต่างๆ ทั้งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งสองมือของประชาชนต่างถือธงชาติ ธงพระปรมาภิไธย วปร. ธงพระนามาภิไธย สท. บางคนก็แนบพระบรมฉายาลักษณ์ไว้ที่หน้าอกด้วยความสำนึกรักต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นศูนย์รวมจิตใจชาวไทยเสมอมา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินผ่าน ทุกคนได้ก้มกราบแนบพระบาท เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีจากใจจริง และตลอดสองฝั่งทางราษฎรต่างเปล่งเสียงถวายพระพร “ทรงพระเจริญ” “พวกเรารักในหลวง” “อยู่อย่างจงรักตายอย่างภักดี” ดังกึกก้อง ด้วยความปลาบปลื้มปีติและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จอย่างใกล้ชิด



แม้สภาพอากาศจะร้อนอบอ้าว พระพักตร์เต็มไปด้วยหยดพระเสโท หากแต่ด้วยพระราชหฤทัยอันตั้งมั่นที่จะทรงพระดำเนินเยี่ยมราษฎรที่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ตลอดเส้นทางที่ทรงพระดำเนิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโบกพระหัตถ์แย้มพระสรวล ทักทายราษฎรอย่างเป็นกันเอง โดยไม่ทรงถือพระองค์ พร้อมทั้งทรงโน้มพระวรกาย มีพระราชปฏิสันถารทักทายกับประชาชนอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ดังใจความตอนหนึ่งว่า “เราต้องรักกัน” “ต้องรักษาความดี ความมีเมตตา” นำมาซึ่งความปลาบปลื้มใจแก่พสกนิกรอย่างหาที่สุดมิได้ เมื่อถึงเวลาอันสมควรจึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต รวมระยะทางที่ทรงพระดำเนิน 700 เมตร ใช้เวลาทรงพระดำเนิน 1 ชั่วโมง 5 นาที.