สมาชิก
ศิลปกรรมช้างเผือก “สยามเมืองยิ้ม” สะท้อนความสุขวิถีชีวิตไทยที่เรียบง่าย

ศิลปกรรมช้างเผือก “สยามเมืองยิ้ม” สะท้อนความสุขวิถีชีวิตไทยที่เรียบง่าย

-ก+

แชร์ข่าว

สร้างเวทีส่งเสริมศิลปินมากฝีมือและความคิดสร้างสรรค์มายาวเกือบทศวรรษ ภายใต้โครงการ ประกวดศิลปกรรมช้างเผือก โดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ซึ่งปีนี้ นิทรรศการ ศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 9 จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “สยามเมืองยิ้ม” มีศิลปินจำนวน 205 คนส่งผลงานเข้าร่วมประกวด จำนวนทั้งสิ้น 235 ชิ้น โดยมีผลงานที่ได้รับรางวัลจำนวน 21 ชิ้น และผลงานที่ได้รับคัดเลือกให้ร่วมแสดงในนิทรรศการจำนวน 34 ชิ้น รวมผลงานจัดแสดงในนิทรรศการทั้งสิ้น 55 ชิ้น ณ ชั้น 7 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

โอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดนิทรรศการและพระราชทานรางวัลในงาน “ศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 9” พร้อมกันนี้ยังทรงทอดพระเนตรผลงานต่างๆ และทรงวาดภาพฝีพระหัตถ์พระราชทานในงานด้วย

ทั้งนี้ ฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ กล่าวว่า บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) มีความมุ่งมั่นที่จะสานต่อโครงการประกวดศิลปกรรมช้างเผือกนี้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อให้ศิลปินผู้รักงานศิลปะในแนวทางนี้ ได้มีเวทีสำหรับแสดงออกถึงความสามารถของตนเองอย่างเต็มที่ อันจะเป็นบันไดที่สร้างเสริมชื่อเสียงและความสำเร็จของแต่ละคน และเพื่อความก้าวหน้าของวงการศิลปะของประเทศไทยสืบต่อไป ด้าน นิติกร กรัยวิเชียร ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ กล่าวว่า การประกวดศิลปกรรมช้างเผือก มีวัตถุประสงค์เพื่อเฟ้นหาศิลปินไทยรุ่นใหม่ที่มีทักษะความสามารถทางศิลปะอันโดดเด่น ในการสร้างสรรค์ศิลปะแบบเหมือนจริง (Realistic) และศิลปะรูปลักษณ์ (Figurative Art) โดยยึดถือความเหมือนจริงเป็นแก่นสำคัญ เพื่อให้ผลงานศิลปะเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สำคัญในการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านศิลปะร่วมสมัยให้ขยายไปสู่การรับรู้ของสังคมในวงกว้าง

สำหรับงานศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 9 ผลงานที่ได้รับรางวัลช้างเผือก ได้แก่ “เสน่ห์ศิลป์ แผ่นดินสยาม” ผลงานของ ธมลวรรณ แสงนาค รับเงินรางวัล 1,000,000 บาท รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ “สุขสัมพันธ์ สามัญวิธี” ผลงานของ นิลยา บรรดาศักดิ์ รับเงินรางวัล 500,000 บาท รางวัล CEO AWARD ได้แก่ “ผมทรงกะลาครอบ” ผลงานของมานนท์ สุธรรม รับเงินรางวัล 250,000 บาท

ด้านผู้คว้ารางวัลช้าง เผือก “ธมลวรรณ แสงนาค” กล่าวว่า ผลงานชิ้นนี้ใช้เทคนิคภาพพิมพ์ตะแกรงไหมและวัสดุผสมที่งดงาม บ่งบอกถึงวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบไทย อันสงบสุขงดงาม สอดรับกับหัวข้อ สยามเมืองยิ้ม เป็นอย่างดี และสื่อถึงความเจริญรุ่งเรืองของศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตชาวสยาม ผ่านรูปแบบอัตลักษณ์ ลวดลายผ้า ส่วน นิลยา บรรดาศักดิ์ ผู้ชนะรางวัลชนะเลิศ เผยว่า แรงบันดาลใจของผลงานมาจากวิถีชีวิตของชนบทไทย โดยนำเรื่องราวความประทับใจในกิจกรรม การลงแขกเกี่ยวข้าวของสังคมชนบทอีสานของตนเอง มาเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์วิถี สร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมสมัยผ่านเทคนิคกระบวนการเย็บปักเส้นด้าย ร้อยเรียง เรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์ ผสานพลังความสามัคคี ก่อเกิดความสุขของการร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ภายใต้การใช้ชีวิตที่เรียบง่าย สามารถปรับประยุกต์วิถีชีวิตให้เข้ากับสภาพสังคมที่เปลี่ยน แปลงไปได้อย่างกลมกลืน โดยยึดตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ตรัสถึง “ความพอเพียง สร้างได้ก็ต่อเมื่อคนในชุมชนช่วยเหลือเกื้อกูลกัน” เป็นประโยคที่จุดประกายความคิดให้ตนเล็งเห็นถึงการมีส่วนร่วมจากส่วนรวม เพื่อสร้างสรรค์และสานสัมพันธ์ชุมชนไทยให้ยั่งยืน

นิทรรศการ “ศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 9” เปิดให้ประชาชนเข้าชม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ ชั้น 7 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 20 ก.ย.63.