สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯปฏิบัติพระราชกรณียกิจแรก ทรงเป็นประธานเปิดงานวันสตรีไทย ประจำปี 2562 มีพระราชดำรัสยินดี และปลาบปลื้มที่ได้รับเกียรติให้มาร่วมงานวันสตรีไทย ทรงระบุบทบาทหน้าที่สำคัญที่สตรีไทยมีต่อครอบครัว การถ่ายทอด สั่งสอนการเป็นสตรีไทยที่ดีไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน เป็นรากฐานสำคัญสำหรับความมั่นคงของครอบครัว สังคมและประเทศชาติ ทรงตั้งพระทัยสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้านมหาดไทยสั่งทุกจังหวัดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ “พระพันปีหลวง” ระหว่างวันที่ 5-19 สิงหาคม

สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจครั้งแรก ทั้งนี้ เมื่อเวลา 16.25 น. วันที่ 1 ส.ค. ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมล ลักษณ พระบรมราชินี เสด็จฯเป็นองค์ประธานเปิดงาน วันสตรีไทย ประจำปี 2562 ภายใต้หัวข้อ “สายธารแห่งพระบารมี สู่การพัฒนาสตรีที่ยั่งยืน” ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ร่วมกับสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์จัดขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระวชิร เกล้าเจ้าอยู่หัวเฉลิมพระชนมพรรษา 67 พรรษา 28 กรกฎาคม 2562 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา 12 สิงหาคม และสมเด็จ พระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เฉลิมพระชนมพรรษา 41 พรรษา 3 มิถุนายน 2562 พร้อมกันนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้พระราชทานเกียรติบัตรแก่สตรีไทยดีเด่นจำนวน 150 ราย และเยาวสตรีไทยดีเด่นจำนวน 25 ราย

จากนั้นสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมล ลักษณ พระบรมราชินี มีพระราชดำรัสว่า ข้าพเจ้ารู้สึกมีความยินดีและปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติให้มาร่วมงานวันสตรีไทย ประจำวันที่ 1 สิงหาคม พุทธศักราช 2562 ขอแสดงความยินดีต่อสตรีไทยดีเด่นและเยาวสตรีไทยดีเด่นที่ได้ผ่านการคัดเลือกให้เป็นสตรีไทยดีเด่นและเยาวสตรีไทยดีเด่นประจำปีนี้

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี มีพระราชดำรัสอีกว่า ข้าพเจ้ามีความตั้งมั่นที่จะสนองพระเดชพระคุณ พระมหากรุณาธิคุณ ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานแห่งสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราช ชนนีพันปีหลวง เหมือนดั่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว ทรงตั้งพระราชปณิธาน ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด และแพร่ขยายพระบารมีแห่งสมเด็จพระบรมชนกนาถและสมเด็จพระบรมราชชนนี ขอให้ทุกท่าน ณ ที่นี้ โปรดร่วมมือร่วมใจและเป็นกำลังร่วมกับข้าพเจ้า ในการเผยแผ่สายธารแห่งพระบารมี สู่การพัฒนาสตรีที่ยั่งยืนเหมือนดังที่ท่านได้ตั้งแนวความคิดของการจัดงานในปีนี้

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี มีพระราชดำรัสด้วยว่า คำสัตย์ปฏิญาณที่ทุกท่านได้กล่าวนั้น ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกซาบซึ้งและแอบกล่าวตามในใจไปด้วยในที ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นสตรีไทยคนหนึ่ง บทบาทหน้าที่สำคัญที่สตรีไทยมีต่อสถาบันครอบครัว ตลอดจนการถ่ายทอด สั่งสอนการเป็นสตรีไทยที่ดีไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลานนั้น นับเป็นรากฐานสำคัญสำหรับความมั่นคงของครอบครัวและจะนำพาไปสู่ความมั่นคงของสังคมและประเทศชาติต่อไป

ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมทั้งพระบารมีแห่งบูรพมหากษัตริยาธิราชแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์จงปกป้อง คุ้มครองให้ท่านทั้งหลายมีความสุขความเจริญโดยทั่วกัน

ต่อจากนั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯไปทอดพระเนตรนิทรรศการ และกิจกรรมของหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่จัดขึ้น อาทิ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และนิทรรศการของสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯก่อนเสด็จฯกลับ

อีกด้าน เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรม ราชชนนีพันปีหลวง กระทรวงมหาดไทยสั่งการให้ทุกจังหวัดเตรียมจัดกิจกรรมทั่วประเทศ โดยเมื่อเช้าวันเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการทุกจังหวัดให้จัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราช ชนนีพันปีหลวง ครบ 87 พรรษา ระหว่างวันที่ 5-19 ส.ค.

รมว.มหาดไทยกล่าวอีกว่า ให้ทุกจังหวัดประดับพระฉายาลักษณ์พระบรมราชชนนีพันปีหลวง หน้าศาลากลางจังหวัด พร้อมประดับธงชาติไทยร่วมกับธงตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 และธงอักษรพระนามาภิไธย ส.ก. พร้อมเชิญชวนบริษัท ห้างร้าน และประชาชนดำเนินการดังกล่าวด้วย รวมถึงจัดสถานที่สำหรับให้ประชาชนร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคล ที่ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด สถานที่ราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง รวมทั้งประดับไฟศาลากลางจังหวัด และสถานที่สำคัญของจังหวัดให้สวยงาม

พล.อ.อนุพงษ์กล่าวต่อว่า สำหรับกิจกรรมในวันที่ 12 ส.ค. ตั้งแต่เวลา 07.15 น. พิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์และสามเณร จำนวน 88 รูป หรือจำนวนตามที่จังหวัดเห็นว่าเหมาะสม จากนั้นเวลา 09.00 น. มีพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคลฯ เวลา 18.30 น. พิธีถวายเครื่องราชสักการะ และในเวลา 19.30 น. พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล นอกจากนั้นในวันดังกล่าวแต่ละจังหวัดจะจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาลำน้ำ ลำคลอง จิตอาสาพัฒนาถนนสายหลัก และจิตอาสาพัฒนาสวนสาธารณะ เพื่อถวายพระราชกุศล และจัดกิจกรรมสาธารณกุศลอื่นๆ เช่น การพัฒนาอาชีพผู้ด้อยโอกาส การจัดบริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในพื้นที่ห่างไกล การเลี้ยงอาหารกลางวันผู้ด้อยโอกาส คนชรา หรือกิจกรรมอื่นๆ ตามที่แต่ละจังหวัดกำหนด รวมถึงจัดกิจกรรมดังกล่าวพร้อมกันในทุกอำเภออย่างสมพระเกียรติ ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมกิจกรรมฯ ตามวัน เวลา และสถานที่ตามที่แต่ละจังหวัดกำหนด เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดีโดยพร้อมเพรียงกัน