นับตั้งแต่ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10” มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ประกาศสถาปนาเฉลิมพระ เกียรติยศ “สมเด็จพระราชินีสุทิดา” ขึ้นเป็น “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธา พิมลลักษณ พระบรมราชินี” เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 ทำให้ประเทศไทยของเราได้มี “พระคู่ขวัญคู่พระราชหฤทัยยุคใหม่” ที่พร้อมเคียงบ่าเคียงไหล่มุ่งบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณา ประชาราษฎร์ พร้อมนำความเจริญรุ่งเรือง และความมั่นคงมาสู่ประเทศชาติ
ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา “สมเด็จ พระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี” ทรงถวายงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาท “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10” ด้วยความจงรักภักดียิ่ง เพื่อแบ่งเบาพระราชภารกิจ ทั้งที่ทรงปฏิบัติแทนพระองค์ และทรงปฏิบัติในส่วนพระองค์เอง โดยหนึ่งในภารกิจสำคัญที่ทรงมุ่งมั่นจริงจัง คือ การถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์อย่างใกล้ชิด ในฐานะราชองครักษ์ผู้แข็งแกร่ง
“สมเด็จพระ นางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี” ทรงเป็นพระบรม ราชินีที่สง่างาม องอาจ เข้มแข็ง และมีระเบียบวินัย ตามแบบฉบับของทหารอย่างแท้จริง ทรงผ่านหลักสูตรการฝึกทหารมาแล้วอย่างเข้มข้นทุกด้าน ทั้งหลักสูตรรักษาพระองค์, ยิงปืน, การชิง ตัวประกัน และหลักสูตรส่งทางอากาศของหน่วยรบพิเศษ โดยทรงทำการกระโดดร่ม 5 ครั้ง จากเครื่องบิน ตามหลักสูตรของโรงเรียนศูนย์สงครามพิเศษ แม้แต่กระโดดร่มลงทะเลในเวลากลางคืน ก็ทรงมีความมุ่งมั่นฝึกฝนด้วยความตั้งพระทัย ได้รับเสียงชื่นชมจากครูฝึกทุกหลักสูตรว่าทรงมีความมุ่งมั่นใส่ใจในการฝึก จนสำเร็จผ่านการศึกษาโรงเรียนเสนาธิการ ทหารบก รุ่น 91 และวิทยาลัยการทัพบก (วทบ.) รุ่น 59 โดยได้รับการแต่งตั้งเป็นนายทหารปฏิบัติการพิเศษติดพระยศพลตรีหญิง เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2556 สังกัดสำนักงานนายทหารปฏิบัติการพิเศษในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ สำนักผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ขณะทรงดำรงตำแหน่งทางทหารเป็นผู้บังคับการกรมราชวัลลภเริงระบำ คุมกำลัง 3 กองพัน และ 1 บก.กรม ได้ทรงพิสูจน์ถึงพระปรีชาสามารถและความอดทนเยี่ยงทหาร โดยทรงนำทำการแสดงทางทหารประกอบดนตรี “ราชวัลลภ เริงระบำ” (Hop to the Bodies Slams) เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 ในงานวันราชวัลลภ ที่มีความยาวต่อเนื่องถึง 48 นาที ได้อย่างสง่างามเข้มแข็งน่าทึ่ง
ด้วยพระทัยมุ่งมั่นและความแข็งแกร่งเหนืออิสตรี จึงทรงได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บังคับการโรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ประจำหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ สำนักผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก่อนจะขยับขึ้นเป็นเสนาธิการหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ และนายทหารปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานนายทหารปฏิบัติการพิเศษในสมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ประจำหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัย รักษาพระองค์ จนถึงปัจจุบันทรงรั้งตำแหน่ง “รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์” คุมกำลังพลปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัยและถวายพระเกียรติแด่องค์พระมหากษัตริย์ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ อย่างใกล้ชิด โดยทรงดำรงยศทางทหาร เป็น “พลเอกหญิงสุทิดา วชิราลงกรณ์ ณ อยุธยา” กระทั่งเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาให้ขึ้นดำรงฐานันดรศักดิ์เป็น “สมเด็จพระราชินีสุทิดา”
นับได้ว่าทรงเป็นต้นแบบของ “พระบรมราชินียุคใหม่” ที่องอาจเข้มแข็งงามสง่า พร้อมเคียงบ่าเคียงไหล่เป็นพระคู่ขวัญคู่พระราชหฤทัยใน “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10” เพื่อนำพาประเทศไปสู่ความทันสมัยและความเจริญรุ่งเรืองอย่างแท้จริง.
ทีมข่าวหน้าสตรีไทยรัฐ