นายกฯ ปธ.ปลูกพระศรีมหาโพธิ์ พุทธศาสนิกชนแห่ทำบุญแน่น

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯพร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอทั้งสองพระองค์ ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล “มาฆบูชา” ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันมาฆบูชา นายกรัฐมนตรีประกอบพิธีปลูกหน่อพระศรีมหาโพธิ์ สานสัมพันธ์ไทย-ศรีลังกา ขอทุกคนทำความดี-ละเว้นชั่วและร่วมกันสืบสานพุทธศาสนาให้คงอยู่คู่ไทยตลอดไป

วันมาฆบูชาวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เวียนมาบรรจบอีกครั้ง โดยในปีนี้ตรงกับวันที่ 19 ก.พ. และเมื่อเย็นวันเดียวกันสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์ เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า สิริวัณณวรีนารีรัตน์ จากพระที่นั่งอัมพรสถานไปยังพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลมาฆบูชา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนรุ่งบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรและพระสัมพุทธพรรณีและจุดธูปเทียนท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์และพระพุทธเลิศหล้านภาลัย แล้วเสด็จไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา จากนั้นผู้อำนวยการกองพระราชพิธี ทูลเกล้าฯ ถวายเทียนชนวน ทรงหยิบเทียนชนวนจดไฟที่โคมไฟฟ้า ซึ่งเจ้าพนักงานพระราชพิธีถือถวาย แล้วพระราชทานเทียนชนวนที่ทรงจุดให้ผู้อำนวยการกองพระราชพิธีเชิญไปถวายเจ้าอาวาสพระอารามหลวง จุดเทียนรุ่งที่ทรงพระราชอุทิศพระราชทาน 5 พระอาราม

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯไปทรงโปรยดอกมะลิที่ธรรมาสน์ศิลาแล้วประทับพระราชอาสน์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม ทรงศีล พระเทพสังวรญาณ วัดบวรนิเวศวิหาร ถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนา จบแล้วสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหลั่งทักษิโณทก เสด็จฯไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระเทศน์ เสด็จฯไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการทองใหญ่ จากนั้นเสด็จออกจากพระอุโบสถไปประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับ

วันเดียวกัน สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมฺพโร) ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันมาฆบูชา ใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า ดิถีมาฆบูชาได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้ว เป็นวันคล้ายวันที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ ประทานแก่พระสาวก 1,250 รูป ซึ่งล้วนอุปสมบทโดยวิธีเอหิภิกขุและเป็นพระอรหันต์ ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงริเริ่มให้มีวันมาฆบูชาขึ้นในประเทศไทย เพื่อให้พุทธบริษัทร่วมกันบูชาพระรัตนตรัยเป็นกรณีพิเศษ และน้อมรำลึกถึงพระธรรมที่พระศาสดาทรงพระมหากรุณาประทานไว้เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา การได้ชื่อว่าเป็นชาวพุทธที่แท้นั้น มิได้อยู่ที่การขึ้นทะเบียนหรือการป่าวประกาศ หากอยู่ที่การศึกษาพระธรรมคำสั่งสอน ด้วยวิธีการฟังหรือการอ่าน เปรียบเสมือนการศึกษาแผนที่นำทางให้รอบคอบชัดเจน จะได้ไม่หลงทางและไม่เสียเวลา วันมาฆบูชาอันเป็นวันประกาศหัวใจพระศาสนา จึงเป็นโอกาสที่ชาวพุทธพึงปฏิญาณตนจะหันมาศึกษาพระธรรมอย่างจริงจัง มิใช่เพียงใน ระดับพิธีกรรมหรือโดยผิวเผิน เพื่อให้เกิดสติปัญญา สามารถอำนวยความร่มเย็นมาสู่ชีวิตและสังคมส่วน รวมได้สมความมุ่งมาดปรารถนา

อีกด้านเมื่อเวลา 09.09 น. ที่วัดวชิรธรรมาราม อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพร้อมภริยา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในการปลูกหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่เกิดจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ อายุกว่า 2,000 ปี ที่เมืองอนุราธปุระ ประเทศศรีลังกา ที่รัฐบาลศรีลังกามอบให้ประเทศไทย เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยมีสมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรฯ ผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต รักษาการเจ้าอาวาสวัดวชิรธรรมาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยผู้แทนจากรัฐบาลศรีลังกา ประกอบด้วย ปาเลกามะ สิรินิวาสะ นายะกะ เถโร เจ้าอาวาสวัด พระศรีมหาโพธิ์ นายกามินี จายาวิกรามาเพเรรา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพุทธศาสนาและพัฒนา ร่วมในพิธีเจ้าอาวาสวัดพระศรีมหาโพธิ์ยังมอบเอกสารสิทธิ์ในการครอบครองหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ให้กับสมเด็จพระวันรัตด้วย โดยนายกฯได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลศรีลังกาที่มอบหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์

นายอนันต์ ปัญญาเพิ่ม นักวิชาการเกษตร ชำนาญการ ศูนย์วิจัยเกษตรเชียงใหม่ สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า หน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์นี้ เป็นสัญลักษณ์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและศรีลังกา สมเด็จพระวันรัตกำชับให้ดูแลเป็นอย่างดี จะไม่มีการใช้ปุ๋ยเคมีและจะนำดินจากดอยอินทนนท์ ซึ่งเป็นดินที่มีความสมบูรณ์มา เพิ่มเติมอีก

ส่วนที่วัดนายโรง กรุงเทพฯ มีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ที่วัดนายโรงอัญเชิญมาจากวัดทีปทุตตมาราม ประเทศศรีลังกา เป็นพระบรมสารีริกธาตุส่วนข้อพระกรด้านขวาอายุกว่า 2,500 ปีไปประดิษฐานเป็นการถาวรที่บุษบกหินอ่อน มณฑปจตุรมุขพระพุทธเจดีย์สารีริกธาตุ วัดนายโรง และคณะศิษย์ยังได้ร่วมกันสร้างผอบทองคำ บรรจุมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากแต่ละประเทศไว้ใต้ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุด้วย โดยมีขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุอย่างยิ่งใหญ่ มีผู้แต่งกายเป็นเทวดานางฟ้า จำนวนมากและผู้ที่ได้รับรางวัลเสาอโศก เนื่องในวันมาฆบูชาปี 2562 เข้าร่วมขบวน พร้อมกับประมุขสงฆ์ ผู้แทนประมุขสงฆ์ จาก 6 ประเทศ คือ ศรีลังกา กัมพูชา ลาว เกาหลีใต้ ไต้หวัน เมียนมา เข้าร่วมพิธี มีการเจริญพระพุทธมนต์ตามรูปแบบของแต่ละประเทศ เพื่อความเป็นสิริมงคลและการจุดโคมประทีป 1,250 ดวงด้วย

คืนวันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำกล่าวเนื่องในกิจกรรมสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเทศกาลวันมาฆบูชา ประจำปี 2562 ว่า วันมาฆบูชาเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ ซึ่งเป็นหลักธรรมอันประเสริฐแก่พระภิกษุสงฆ์ที่มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย วันมาฆบูชาจึงเป็นวันที่พุทธศาสนิกชนจะได้พร้อมใจกันบำเพ็ญความดีให้ถึงพร้อม ทำจิตใจตนเองให้บริสุทธิ์ผ่องใส และปฏิบัติศาสนกิจต่างๆเพื่อน้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า รัฐบาลขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมใจปฏิบัติบูชาพระรัตนตรัย ด้วยการทำบุญ ตักบาตร ฟังพระธรรมเทศนา เวียนเทียน กระทำความดี ละเว้นความชั่ว เพื่อความสุข ความเจริญ ความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองพร้อมทั้งครอบครัว และร่วมกันสืบสานพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่คู่สังคมไทยอย่างยั่งยืนตลอดไป

สำหรับบรรยากาศเวียนเทียนเนื่องในวันมาฆบูชา ช่วงเย็นตามวัดต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ อาทิ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก ห้วยขวาง วัดแสนสุข มีนบุรี พุทธศาสนิกชนต่างใส่ชุดสีขาว พาบุตรหลานเดินทางมาปฏิบัติธรรมและเวียนเทียนสืบทอดศาสนาในวันมาฆบูชากันอย่างคึกคัก สร้างบุญเสริมสิริมงคลให้แก่ชีวิต เช่นเดียวกับที่วัด พระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน มีประชาชน จำนวนมากมาเวียนเทียน โดยวัดได้ขอความร่วมมือประชาชนที่มาเวียนเทียนงดการจุดธูป เทียน ป้องกันมลภาวะที่จะเกิดขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี