นับเป็นบุญของประชาชนชาวไทยอีกครั้งที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดงานฤดูหนาวแบบย้อนยุคขึ้น เพื่อสะท้อนความงดงามของวัฒนธรรมประเพณีและศิลปะแบบไทยๆ ภายใต้ชื่องาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ณ บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2561-19 มกราคม 2562

งานอุ่นไอรักฯครั้งนี้ นอกจากสะท้อนอารยธรรมไทยให้คนรุ่นหลังได้ซึมซับแล้ว ยังจะได้เรียนรู้ถึงสายน้ำสำคัญในกรุงรัตนโกสินทร์ ที่พระมหากษัตริย์แต่ละรัชกาลทรงมีพระราชดำริให้ขุดสร้างขึ้นเพื่อสร้างความสุข ความเจริญแก่บ้านเมืองและราษฎร เพราะแม่น้ำถือเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิต ทั้งความเป็นอยู่ เส้นทางการสัญจร และแหล่งอาหาร รวมทั้งยังเป็นคูเมือง ป้อมปราการป้องกันศัตรูที่มารุกรานอีกด้วย ศ.เกียรติคุณ ดร.ม.ร.ว.สุริยวุฒิ สุขสวัสดิ์ รองประธานฝ่ายจัดนิทรรศการงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ได้อธิบายถึงคูคลอง แม่น้ำสำคัญของกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่องค์ปฐมกษัตริย์จนถึงรัชกาลปัจจุบัน

ในสมัยรัชกาลที่ 1 ทรงย้ายพระนครจากฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา กรุงธนบุรี มาฝั่งตะวันออก ทรงสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ ในปี พ.ศ.2325 ทรงโปรดให้ขุดคลองบางลำพู หรือคลองโอ่งอ่าง ซึ่งเป็นคลองเดียวกัน แต่มี 2 ชื่อ เป็นคูเมืองด้านทิศเหนือ และขุดคลองมหานาค ทำให้กรุงรัตนโกสินทร์เป็นเกาะเหมือนกรุงศรีอยุธยา ที่มีแม่น้ำ 3 สายล้อมรอบ โดยทรงมีพระราชปณิธานในการสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ ให้คล้ายกรุงศรีอยุธยา คูเมืองและแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นคูเมืองป้องกันศัตรูด้วยและใช้เป็นเส้นทางคมนาคมด้วย

ในสมัยรัชกาลที่ 2 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้าง “สวนขวา” ในพระมหาราชวังขึ้น และทรงให้ขุดสระน้ำ ก่อปราสาท ก่อเก๋งจีน ก่อตึกฝรั่งขึ้น ปลูกไม้ดอกไม้ผล เป็นสวนที่งดงาม สมัยรัชกาลที่ 3 มีการค้าขายกับประเทศจีน มีเรือสำเภามาค้าขายปีละเป็นพันลำ แม่น้ำเจ้าพระยาจึงมีความสำคัญมาก สมัยรัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองผดุงกรุงเกษมขึ้น เป็นคูเมืองชั้นนอกอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ยังโปรดเกล้าฯให้ขุดคลองเจดีย์บูชา เพื่อใช้เป็นเส้นทางไปสักการะพระปฐมเจดีย์ ขุดคลองดำเนินสะดวกขึ้นเป็นประโยชน์ต่อชุมชมแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำแม่กลองได้ติดต่อค้าขายง่ายขึ้น

ในรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ขุดคลองเปรมประชากร ขุดคลองรังสิต เพื่อใช้ทำนาปลูกข้าว โปรดเกล้าฯให้สร้างสะพานที่สวยงามในกรุงเทพฯ เช่น สะพานผ่านฟ้าลีลาศ สะพานมัฆวานรังสรรค์ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างสะพานขึ้นในทุกวันเฉลิมพระชนมพรรษา 20 กันยายน โดยใช้ชื่อสะพานขึ้นต้นว่า “เฉลิม” เช่น สะพานเฉลิมศรี สะพานเฉลิมยศ ฯลฯ สำหรับในสมัยรัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯให้สร้างพระตำหนักจิตรลดารโหฐานขึ้น โดยให้ขุดคูล้อมรอบ และทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯให้สร้างสะพานในวันเฉลิมพระชนมพรรษา เช่นกัน โดยใช้ชื่อสะพานขึ้นต้นว่า “เจริญ” ในรัชกาลที่ 7 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างสะพานพุทธยอดฟ้าขึ้น เพื่อฉลองกรุงเทพฯ 150 ปี และรัชกาลที่ 8 เสด็จฯไปว่านข้าวในทุ่งบางเขน สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ราษฎร

ในรัชกาลที่ 9 ทรงมีโครงการพระราชดำริมากมาย ในการจัดการน้ำครบวงจร มีการสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำ อ่างเก็บน้ำ สร้างฝายชะลอน้ำ ทำฝนหลวง กังหันชัยพัฒนา และโครงการป้องกันน้ำท่วมต่างๆ เช่น คลองลัดโพธิ์ และในรัชกาลปัจจุบัน ทรงสืบสานพระราชกรณียกิจของพระบรมชนกนาถ และสมเด็จพระบรมราชชนนี ในการรักษาแหล่งน้ำและสายน้ำให้สะอาด บ้านเมืองสวยงาม โดยปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนมีจิตอาสาร่วมกันดูแลบ้านเมือง

นอกจากความรู้จะได้รับจากนิทรรศการที่จัดแสดงแล้ว ในงานยังมีการจำลองสิ่งสำคัญๆที่ทำให้เราได้รำลึกถึงวัฒนธรรมอันงดงามของไทย อย่างการจำลองเรือพระราชพิธี จำนวน 4 ลำ ขนาดครึ่งของลำจริง ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ขนาดยาว 25 เมตร, เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 ขนาดยาว 26 เมตร, เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ขนาดยาว 24 เมตร, เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ขนาดยาว 25 เมตร นอกจากนี้ยังมีพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์จำลอง ที่ประดิษฐานกลางน้ำ และมีการจำลองเรือสำเภาให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นอีกด้วย

พร้อมกันนี้ยังมีงานเขียนภาพจิตรกรรมทิวทัศน์และภาพสามมิติ โดยสำนักช่างสิบหมู่ เป็นภาพที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่เกี่ยวเนื่องกับสายน้ำและวิถีเกษตรกรรมไทยที่สวยงาม เช่น ภาพปลา 3 มิติกระโดดจากน้ำ และภาพ ทิวทัศน์ท่าราชวรดิษฐ์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พระบรมมหาราชวัง, ภาพสามมิติเป็นภาพเด็กและเครื่องมือจับปลาสมัยโบราณ, ภาพประเพณีลอยกระทง เป็นต้น

ในงานยังมีการสาธิตงานช่างฝีมือ จากวิทยาลัยในวังหญิงและวิทยาลัยในวังชาย รวมถึงการออกร้านทั้งของกินของใช้ เพื่อให้ผู้ไปชมงานได้ชิมช็อปอย่างเพลิดเพลินไม่รู้เบื่อ ได้แก่ สินค้าจากร้านจิตอาสา 904 ร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์ และร้านค้ารับเชิญกว่า 36 ร้าน และอิ่มอร่อยกับอาหารในตลาดบก ตลาดน้ำ 3 ตลาด ได้แก่ ตลาดเดินชิมริมทาง, ตลาดบกวิถี 4 ภาค, ตลาดน้ำในฝัน แวะไปสัมผัสงาน“อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ได้ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. โดยวันศุกร์และเสาร์ เปิดถึงเวลา 22.00 น. และอย่าลืมพกบัตรประชาชนติดตัวไปด้วย.