ที่ท้องสนามหลวง ตลอดทั้งวันที่ 11 พ.ย.ประชาชนจากทั่วประเทศเดินทางมาชมนิทรรศการ “งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร” อย่างต่อเนื่อง และบรรยากาศโดยรวมเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนสนใจถ่ายภาพพระเมรุมาศกันอย่างเนืองแน่น ส่วนบริเวณศาลาลูกขุนและทับเกษตร ที่จัดแสดงข้อมูลเบื้องหลังการก่อสร้างพระเมรุมาศ และบริเวณพระที่นั่งทรงธรรม ที่มีพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็ได้รับความสนใจไม่น้อยไปกว่ากัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายมีฝนโปรยปรายลงมา เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้าชมนิทรรศการพระเมรุมาศช่วงฝนตกเพื่อความปลอดภัยและไม่อยากให้เปียกฝน ทำให้ประชาชนพักคอยนานกว่าปกติเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคในการรอชมนิทรรศการฯ แต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ธานี ฉุยฉาย ที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการร่วมรักษาความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) กล่าวว่า เนื่องจากเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ มีประชาชนจำนวนมากเข้าชมนิทรรศการ ยอดตั้งแต่เช้าถึงเวลา 15.30 น. ผู้เข้าชมนิทรรศการเกือบ 60,000 คน เป็นคณะนักเรียน นักศึกษากว่า 3,000 คน ซึ่งวางแผนนำคณะนักเรียนเข้าชม 10,000 คนต่อวัน จนถึงสิ้นสุดนิทรรศการ ส่วนนักท่องเที่ยวพบว่ามีทุกชาติทุกภาษาสนใจเข้าชมนิทรรศการพระเมรุมาศในแต่ละจุดมากกว่าแค่ถ่ายภาพด้านหน้าพระเมรุมาศ ภาพรวมผู้เข้าชมด้วยความสุภาพ สำรวม ปฏิบัติตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำวิธีการเข้าชมพระเมรุมาศ และนิทรรศการโดยรอบ ไม่แตะต้องหรือจับพระเมรุมาศและสิ่งก่อสร้าง มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยดี อย่างไรก็ตาม ฝากให้ประชาชนเตรียมตัวให้พร้อมเรื่องขับถ่าย เนื่องจากพื้นที่ด้านใน ห้องน้ำมีจำกัดอาจบริการไม่ทั่วถึง
นอกจากนี้ พล.ต.ธานีกล่าวด้วยว่า เนื่องจากในช่วงบ่ายวันที่ 11 พ.ย. มีฝนตกลงมา แม้ทางเจ้าหน้าที่มีบริการให้ยืมร่มหมุนเวียนจำนวน 3,000 คัน แต่ประชาชนควรนำร่มติดตัวมาด้วยในวันต่อไป เพราะจำนวนร่มไม่เพียงพอ และในวันที่ 13 พ.ย. เวลา 16.00 น. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี จะมาตรวจการชมนิทรรศการ และประเมินจำนวนผู้เข้าชมว่าควรจะขยายระยะเวลาในการเปิดเข้าชมนิทรรศการหรือไม่
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนาง จันทร์ฉาย โคบายาชิ อายุ 52 ปี ที่เดินทางมาชมพระเมรุมาศพร้อมกับลูกสาว กล่าวว่า ได้เห็นพระเมรุมาศในช่วงถ่ายทอดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ก็รู้สึกได้ถึงความงดงาม พอได้เห็นกับตาตัวเอง เป็นความรู้สึกยิ่งไปกว่านั้น ทีมช่างและส่วนที่เกี่ยวข้องก่อสร้างพระเมรุมาศได้ออกมาสมพระเกียรติ ส่วนบนพระที่นั่งทรงธรรม เพิ่งจะได้เห็นตู้ของเล่นของในหลวงรัชกาลที่ 9 ขณะเมื่อทรงพระเยาว์เป็นครั้งแรก ซึ่งพระราชกรณียกิจของพระองค์ทราบมาบ้าง แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่รู้ โดยเฉพาะด้านการต่างประเทศ ที่พระองค์เสด็จฯไปยังประเทศต่างๆ เพื่อสร้างสัมพันธไมตรี ทำให้ตนและกับลูกสาวได้รับรู้เรื่องเหล่านี้มากขึ้น
จากนั้นเวลา 19.00-19.30 น. มีการแสดงโขนหน้าพระที่นั่งทรงธรรม โดยวันที่ 11 พ.ย.เป็นการแสดงโขนในชื่อชุด “ศึกทูต ขร ตรีเศียร” ส่วนวันที่ 12 พ.ย. การแสดงโขนในชื่อชุด พระรามได้พล ซึ่งการแสดงโขนนี้มีเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์เท่านั้น ขณะที่จำนวนผู้เข้าชมนิทรรศการพระราชพิธีฯ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง วันที่ 10 พ.ย. รวม 82,042 คน แบ่งเป็นประชาชน 51,164 คน นักเรียน นักศึกษา 28,877 คน พระภิกษุ สามเณร แม่ชี 369 รูป ผู้พิการวีลแชร์ 1,314 คน ชาวต่างชาติ 272 คน สื่อมวลชน 46 คน รวมระยะเวลาการจัดนิทรรศการตั้งแต่ 2-10 พ.ย. รวม 9 วัน มีผู้เข้าชมจำนวน 487,423 คน