“บิ๊กตู่” กร้าวไม่สนหน้าไหนทุจริตเงินวัด ฟันหมด ชี้ ไม่จำเป็นใช้ม.44 ถามใช้งบฯ ขอเงินทอนมีที่ไหน ประชดปลูกผักชีง่ายกว่าสร้างจิตสำนึกไม่ทุจริต

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 20 มิ.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีการตรวจสอบการจัดสรรเงินอุดหนุนวัด ว่า อยู่ระหว่างการสอบสวนว่า มีกี่วัด ปลดคนไปเท่าไรแล้ว เขาปลดคนหรือยัง สอบสวนแล้วติดคุกหรือไม่ ก็ต้องเอามาติดคุกคดีอาญาอีก ตนไม่สนใจใครทั้งนั้น ส่วนจะออกมาตรา 44 มาบริหารจัดการหรือไม่นั้น คงไม่ต้องแล้ว ออกมาเยอะก็มาว่าตนอีก เพราะกฎหมายเดิมมีอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้มันละเมิดกฎหมาย ใช้งบประมาณเท่านั้นแล้วขอทอนเงินมามันได้หรือไม่ ส่วนสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มีปัญหาเรื่องการตรวจสอบหรือไม่นั้น ตนยืนยันว่าไม่มี มันอยู่ที่วัดให้ความร่วมมือหรือไม่

“แล้วจะให้ผมทำอย่างไร จะเอามาตรา 44 มาปิดวัดหรือ ปัดโธ่ คิดให้มันเป็น เขาก็ไปตรวจสอบมาใครผิดตรงไหนก็ว่าตรงนั้น ไม่ว่าจะพระหรือพุทธศาสนิกชนที่ถูกหลอกบ้าง ก็ต้องไปแก้ปัญหากันมา ถ้าคนที่คิดจะได้ประโยชน์แบบนี้มันแก้อะไรไม่ได้ รัฐบาลก็แก้ไม่ได้ ถ้าตราบใดที่เขาจะให้เงินแล้วทอนเขา แล้วยังยอมเขา มันจะแก้อะไรได้หรือไม่ เราจึงต้องสร้างจิตสำนึกของแต่ละคนให้ได้ เราต้องแก้ไปด้วยกัน ไม่ใช่ว่าอะไรก็ให้รัฐทำ วันนี้การขึ้นทะเบียนวัด การตรวจสอบทรัพย์สินวัดทำไป 96 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ถามว่า มันจะหมดหรือไม่ ผมก็ไม่แน่ใจว่า มันจะหมดหรอก ตราบใดที่คนอยากได้เงินวิธีอะไรก็ได้ การทุจริตมันไม่หมด ดังนั้นจิตสำนึกสำคัญที่สุด แต่มันปลูกกันได้หรือไม่ ปลูกผักชีจะง่ายกว่าหรือไม่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.

...