"อภิสิทธิ์" ชี้ "ปลาสองน้ำ" แค่วาทกรรม ห่วง กกต.ใหม่ถูกแทรกแซง ไม่เป็นกลาง เชื่อปมตรวจสอบ 9 รมต.ทำตามขั้นตอน ปัด "เอาคืน"
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 60 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกฯ กล่าวถึงการเซตซีโร่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดปัจจุบัน โดยฝ่ายที่เสนอระบุเหตุผลเพื่อไม่ให้เกิดปลาสองน้ำ ว่า ถ้าจะให้เริ่มต้นกันใหม่หมด ก็มีเหตุผลที่จะอ้างได้ ว่ามีการเพิ่มจำนวนกรรมการ อำนาจมันเปลี่ยนอะไรต่างๆ หรือจะคงเดิมไว้ ถ้าไม่ได้ขัดเรื่องของมาตรฐานคุณสมบัติของคนที่ไปได้ ก็ไม่ได้เป็นปัญหา จึงเป็นการชั่งน้ำหนักระหว่างการเอาประสบการณ์และความต่อเนื่องระดับหนึ่งของคน กับการที่บอกว่าจะเริ่มต้นกันใหม่เพื่อให้มันเป็นรูปแบบใหม่ไปเลย
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าจะมองอย่างไร แต่ปลาสองน้ำคำนี้ก็เป็นวาทกรรมหนึ่ง ซึ่งความจริงจะใช้คำอื่นอย่าง เช่น การประนีประนอมก็ได้ มันเหมือนเหรียญสองด้าน ทั้งนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเซตซีโร่เป็นการไม่ให้โอกาสคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และมีประสบการณ์ได้ทำงานต่อ ถ้าจะทำเช่นนี้ก็ต้องยอมรับว่าเราก็ไม่ให้โอกาสคนที่เขามีคุณสมบัติครบถ้วน และมีประสบการณ์ทำงานมาแล้วได้ทำงานต่อ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.ระมัดระวังท่าทีต่อกรณีที่เกิดขึ้น เพราะจะกลายเป็นว่าออกมาพูดถึงประโยชน์ตัวเอง เช่นเดียวกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ตนคิดว่ามีหลายเรื่องทำให้ยุ่งยากและสร้างปัญหาใหม่ แต่เมื่อกติกาออกมาแล้ว ก็ต้องปฏิบัติตาม ขณะเดียวกัน คสช.ต้องรับผิดชอบมากขึ้นเช่นกัน ในแง่กระบวนการสรรหา กกต.ชุดใหม่โดยอำนาจ ให้ความเห็นขึ้นอยู่กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งถือเป็น 1 ในแม่น้ำ 5 สาย จึงน่าเป็นห่วงว่าพอ กกต.ชุดใหม่ ซึ่งมาจากแม่น้ำ 5 สาย ถ้าเข้าสู่สนามเลือกตั้งแล้ว มันเกิดมีพรรคการเมืองที่อิงอยู่กับแม่น้ำ 5 สายอีก ตรงนี้มันก็จะกลายเป็นประเด็นทางการเมืองขึ้นมา
...
ตนจึงบอกว่าทุกอย่างต้องทำตามกรอบกฎหมาย จะทำอย่างนี้ก็ทำได้ แต่ก็ต้องระมัดระวัง อย่าให้มันกลายเป็นความวุ่นวายตามมา สุดท้ายแล้วมันจะกลายเป็นสิ่งที่คนกำลังตั้งข้อสังเกตว่า ไม่มีมาตรฐานสำหรับองค์กรอิสระและต้องคอยดูด้วยว่า จะมีการจะเซตซีโร่องค์กรอิสระอื่นด้วยหรือไม่
สำหรับกรณี กกต.จะตรวจสอบคุณสมบัติ 9 รัฐมนตรีนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทราบว่ามีการร้องมานานแล้วและมีการตรวจสอบ บังเอิญมาในจังหวะที่กำลังจะถูกเซตซีโร่ กกต.พอดี จึงถูกจับชนกันว่าเป็นการตอบโต้เอาคืน แต่พูดเรื่องคุณสมบัติหรือเรื่องประเด็นที่ต้องตรวจสอบนี้ ไม่ควรจะต้องขึ้นอยู่กับผู้ตรวจสอบ เพราะมันตามเนื้อผ้าอยู่แล้ว ข้อเท็จจริงคงหนีไปไหนไม่ได้ แล้วก็ข้อกฎหมายมันก็คงจะมีหลักที่สามารถเทียบเคียงได้อยู่แล้ว