จะครบ 3 ปี คสช.อีกไม่กี่วันนี้ รัฐบาลเตรียม การจะแถลงผลงานให้ปรากฏ มีอยู่คำถามหนึ่งที่จะต้องตอบด้วยว่า การแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ทำไมยังทรงตัวไม่มีคืบหน้าไปในทางที่ดีได้
ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ยิ่งใกล้จะครบ 3 ปีจากการเข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศของ คสช.กลับเกิดอาการป้อแป้ชอบกล
หลายเรื่องประเดประดังเข้ามาจนสับสนกันไปหมด
นี่ขนาดว่ายังมีอำนาจพิเศษกำกับอยู่ยังเป็นไปถึงขนาดนี้ได้
รายการระเบิดที่หน้าห้างบิ๊กซี ปัตตานี ยิ่งสะท้อนภาพการแก้ไขปัญหาที่ยังย่ำเท้าอยู่กับที่แทนที่จะรุดหน้าไปมากกว่านี้
ลงทุนตั้งรัฐบาลส่วนหน้าเพื่อเข้าไปแก้ไขปัญหาโดยตรง มีระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมเข้าไปรับผิดชอบโดยตรง
ต้องเพิ่มงบประมาณเทลงไปอีกก้อนใหญ่
แทนที่เหตุการณ์รุนแรงจะลดลงอย่างเป็นรูปธรรมกลับมีเหตุเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้แม้จะจับกลุ่มคนร้ายได้ค่อนข้างจะรวดเร็ว
แต่ก็อีกแหละ...บอกว่าทางการข่าวทราบเรื่องนี้ล่วงหน้าแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นจึงไม่อาจป้องกันได้ทัน
ไม่ต่างกับที่ผ่านมาหลังเกิดเหตุแล้วรู้กันไปหมด
ข้อสังเกตอย่างหนึ่งการก่อเหตุร้ายครั้งนี้ดูเหมือนว่ากลุ่มคนร้ายจะกระทำการกันอย่างรวดเร็วเหมือนมี “ใบสั่ง” ต้องให้รีบทำ
การวางแผนจึงไม่แยบยลทิ้งหลัก ฐานเอาไว้หลายจุด ทำให้การสอบสวนทำได้ง่ายขึ้นจนสามารถจับกุมคนร้ายได้และยังมีเบาะแสโยงใยไปถึงคนอื่นๆที่ยังจับตัวไม่ได้ด้วย
ว่าไปแล้วกลุ่มคนร้ายหลายคนก็เห็นหน้าเห็นตากันอยู่ทุกวัน
หรือแม้แต่เป้าหมายซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้า ที่ผู้คนพลุกพล่านและจะเห็นได้ว่าเป็นกลุ่มคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
เหล่านี้ล้วนเป็นข้อสังเกตที่จะต้องมีการวิเคราะห์ออกมาให้ชัดเจนว่าสาเหตุมันเพราะอะไรกันแน่
...
เพราะแม้แต่กลุ่ม “พูโล” ก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย
คลี่ปมตรงนี้ออกมาให้ชัดเจนว่าเป็นฝีมือใคร กลุ่มไหน และมีเป้าหมายเพื่ออะไรกันแน่ ก็จะทำให้รู้สาเหตุได้
ทุกวันนี้การก่อเหตุรุนแรงใน 3 จังหวัดภาคใต้ดูเหมือนจะห่างไกลจากเรื่อง ศาสนา การแยกดินแดนไปมาก ตรงกัน ข้ามมีเรื่องผลประโยชน์ต่างๆเข้ามาเกี่ยวพันจนแยกไม่ออก
ยาเสพติด ของเถื่อน ธุรกิจผิดกฎหมาย ความขัดแย้งด้านการค้า
หรือแม้แต่ข่าวความขัดแย้งในหมู่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ก็ยังปรากฏให้เห็น
ผู้รับผิดชอบโดยตรงควรจะใส่ใจงานด้านนี้ให้มากกว่าเรื่องทางการเมือง เรื่องซื้ออาวุธ หรือเรื่องอะไรที่มักจะเป็นข่าวไม่ค่อยจะดีนัก
ที่น่าใส่ใจอีกเรื่องก็คือความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ การทำมาหากิน ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การศึกษา การสาธารณสุข ฯลฯ
ขวัญและกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป
ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้นั้นแน่นอนไม่ใช่เรื่องที่จะแก้ไขได้ง่ายๆอย่างที่ทราบกันดี แต่ก็น่าจะเห็นผลไปในทางที่ดีตามลำดับ
แต่ดูเหมือนว่ายังวนไปวนมาเหมือนไม่มีอะไรคืบหน้า
จากการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นซึ่งต้องทุ่มงบประมาณมีการคำนวณตัวเลขออกมาหลายแสนล้านบาทเข้าไปแล้ว
ทำไมสภาพการณ์จึงยังดำรงอยู่อย่างนี้
ลองช่วยกันตอบโจทย์ก่อนที่จะครบรอบ 3 ปีดีมั้ย...!!!
“ลิขิต จงสกุล”