โฆษก ทอ. เผยยอมรับซากเครื่องบินที่พบบริเวณเขานมสาว อุทยานน้ำตกหงาว จ.ระนอง เป็นเครื่องบินแบบ T-6 เข้ามาประจำการตั้งแต่สมัยสงครามโลก และถูกปลดประจำการเมื่อปี 2517 ในกองบินประจวบฯ แต่ไม่ทราบว่าเครื่องตกด้วยเหตุใด ระหว่าง "บินหลง-ถูกยิง" ทอ.เตรียมส่งกองนิรภัยการบิน กรมช่างอากาศ เข้าประเมิน เก็บซาก หรือทำลายทิ้ง...

เมื่อวันที่ 3 พ.ค.60 พล.อ.ต.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย โฆษก ทอ. เผยว่า จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ของ “อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว จ.ระนอง และ จ.ชุมพร ได้ดำเนินการออกตรวจลาดตระเวนเชิงคุณภาพ โดยเขตจัดการอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาวที่ 2 อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร และสำรวจแหล่งท่องเที่ยวร่วมกับทีมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร โดยขณะเดินบนยอดเขาสูงได้พบซากเครื่องบินกระจัดกระจายอยู่บริเวณยอดเขานมสาว โดยชิ้นส่วนเครื่องบินบางชิ้นเป็นรูปปลาฉลามตัวสีเหลือง ปากสีแดง มีฟันสีขาว และคาดว่าน่าจะเป็นที่โคนหางเครื่องบินมีรูปวงกลมเป็นสัญลักษณ์ธงชาติไทย มีเลข 94 ซึ่งเครื่องบินทั้งลำน่าจะเป็นสีเขียว ซึ่งกองทัพอากาศได้รับทราบข้อมูลแล้ว และได้นำเรียน พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ.ให้รับทราบ

"จากการตรวจเช็กทำให้ทราบว่า เป็นเครื่องบิน T-6 ที่เคยเข้าประจำการในกองทัพอากาศ สมัยสงครามโลก ในราวปี พ.ศ.24 ปลายๆ จนถึง 2517 ได้ถูกปลดประจำการ ซึ่งเครื่อง T-6 ได้เข้ามาประจำการกองทัพอากาศประมาณ 200 เครื่องในขณะนั้น โดยถูกกระจายไปตามกองบินต่างๆ เช่น กองบิน 1 กองบิน 2 ซึ่งอัตราการจัดเครื่องบินขณะนั้นจะใช้แบบเดียวกัน เพราะเป็นเครื่องแบบฝีก-โจมตี เพราะเป็นเครื่องบินแบบ ใบพัด" โฆษก ทอ.กล่าว

...

พล.อ.ต.พงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งที่สังเกตได้ว่าเครื่องบินนี้มีหมายเลขเครื่อง 94 น่าจะประจำการที่กองบินในประจวบฯ เพราะมีรูปปลาฉลามตัวสีเหลือง ปากสีแดง มีฟันสีขาว แต่ไม่ทราบว่าภารกิจที่ขึ้นทำการบินในขณะนั้นว่าเป็นภารกิจใด โดยทางกองทัพอากาศได้ส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งจากกองนิรภัยการบิน กรมช่างอากาศ เข้าไปเพื่อประเมินว่าจะทำยังไงต่อกับเครื่องบินนี้ เพราะจุดที่ตกทราบว่าอยู่ในป่าลึก จะทำการเก็บซาก เพื่อทำการรักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เพื่อการค้นคว้า หรือจะต้องทำลายทิ้ง เพราะเครื่องบินเมื่อหายสาบสูญทางกองทัพอากาศจะต้องทำการจำหน่ายเครื่องบินออกจากกองบิน เพราะเรายังไม่ทราบแน่นอนว่าการที่เครื่อง T-6 ตก เป็นเพราะบินหลงหรือถูกยิง.