สนช.ถก 2 ชม.ครึ่ง มีมติ 196 เสียง รับหลักการร่าง พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ "วิษณุ" แจงตั้งซุปเปอร์บอร์ด เสร็จใน 1 ปี "สมชาย" ติงขอลดสัดส่วนฝ่ายความมั่นคง

เมื่อวันที่ 20 เม.ย.60 ในการประชุม สนช.ที่มี นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่ 1 เป็นประธาน ได้พิจารณาเรื่องด่วน ร่าง พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ที่ ครม.เป็นผู้เสนอ โดย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ชี้แจงว่า กฎหมายฉบับนี้ถือเป็นพี่ของร่าง พ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดว่า รัฐ หมายถึง ครม.ต้องจัดทำกฎหมายยุทธศาสตร์ เพื่อวางเป้าหมายเป็นแผนที่เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ เศรษฐกิจ การใช้งบประมาณ กำลังคน ให้เสร็จภายใน 120 วัน หลังร่างรัฐธรรมนูญประกาศใช้ จากนั้นนับหนึ่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ หรือเรียกว่าซุปเปอร์บอร์ด มาทำงานตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ให้เสร็จใน 1 ปี จึงเป็นกฎหมายเหนือกว่าทุกฉบับ มีผลผูกพันกับทุกองค์กร หากประชาชนหรือหน่วยใดพบว่า ส่วนงานราชการไม่ปฏิบัติตาม ให้ส่งเรื่องไปที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ หาก ป.ป.ช. ชี้ว่ามีความผิดจริง ให้ดำเนินการกับหัวหน้าส่วนราชการที่ฝ่าฝืนตามกฎหมาย

ทั้งนี้ การกำหนดยุทธศาสตร์ชาติไว้ล่วงหน้า 20 ปีนั้น หากรัฐบาลต่อไปเห็นว่าควรเปลี่ยนแปลงก็แก้ไขได้ไม่ยาก แต่ต้องเข้าตามตรอกออกตามประตู ตามขั้นตอนตั้งต้นร่างกฎหมายยุทธศาสตร์ชาติ

จากนั้น ที่ประชุมเปิดให้สมาชิกอภิปราย มีทั้งสิ้น 15 คน ทั้งหมดเห็นด้วยกับหลักการกฎหมาย แต่ได้ท้วงติงรายละเอียดบางเรื่อง อาทิ ควรมีสัดส่วนประชาชนร่วมในคณะกรรมการซุปเปอร์บอร์ดหลากหลายกว่านี้ โครงสร้างคณะกรรมการที่ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา มาดำรงตำแหน่ง รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติโดยตำแหน่ง การทำงานอาจลักลั่น เพราะงานด้านยุทธศาสตร์ชาติควรเป็นฝ่ายบริหาร

...

โดย นายสมชาย แสวงการ สนช.ได้ท้วงติง องค์ประกอบโครงสร้างของคณะกรรมการที่จะมาทำงานตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ มีบุคลากรทางด้านความมั่นคงมากเกินไป อาจกลายเป็นการพัฒนายุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง มากกว่าทางด้านเศรษฐกิจ ขอเสนอให้ปรับลดสัดส่วน

ด้าน นายวิษณุ ชี้แจงว่า องค์ประกอบของคณะกรรมการซุปเปอร์บอร์ด หากจะปรับลดหรือเพิ่มก็อยู่ที่ดุลยพินิจ แต่สัดส่วนหน่วยงานความมั่นคงมีที่มาที่ไป โดยตำแหน่งมาจากวุฒิสภาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด จึงจำเป็นที่จะต้องนำท่านเหล่านี้มาดูแลความมั่นคง

ภายหลังที่ประชุมใช้เวลาอภิปราย 2 ชั่วโมงครึ่ง ได้ลงมติเห็นชอบรับหลักการ ร่าง พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ด้วยคะแนน 196 ต่อ 0 งดออกเสียง 3 ให้ตั้ง กมธ.วิสามัญดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 60 วัน