"อังคณา" โต้แถลงการณ์ ปธ.กสม.กล่าวหารับใช้ต่างชาติ จี้ถ้ามีหลักฐานยื่น สนช.ขอถอดถอนเลย เหน็บอย่าพูดแบบเหมารวม รับมีปัญหาภายในองค์กรจริง ทำ "หมอสุรเชษฐ์" ชิงลาออก ยุส่งรีเซตยกชุด-สรรหาใหม่ หลัง รธน.ใหม่กำหนด กก.สรรหาหลากหลาย หวังยกระดับ กสม.ปรับเกรดเป็น "เอ" เหมือนเดิม
เมื่อวันที่ 11 เม.ย.60 นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวถึงแถลงการณ์ 6 ข้อ ของนายวัส ติงสมิตร ประธานกสม. เกี่ยวกับกรณีปัญหาภายในองค์กรทำให้นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ยื่นใบลาออก ว่า ถ้อยแถลงการณ์ของประธาน กสม. ก็ถือเป็นความเห็นส่วนตัวของประธาน ตนไม่อยากก้าวล่วง แต่ก็มีคนตั้งข้อสังเกตว่า แถลงการณ์ในข้อ 6 ที่ประธานระบุคล้ายว่ากสม.บางคนมีการรับใช้ต่างชาติเป็นการบ่อนทำลายประเทศชาตินั้น เรื่องนี้ตนก็ไม่ทราบว่าคำกล่าวนี้ใครเป็นคนกล่าวและประธานหมายถึงใคร ซึ่งตั้งแต่เข้ามาทำงานยังไม่เห็นมี กสม.คนใดทำตัวบ่อนทำลายประเทศชาติ ถือเป็นการกล่าวหาที่ร้ายแรงมาก ทั้งนี้หากมีกสม.คนใดที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ตนเห็นว่าสมควรใช้กลไกทางกฎหมายดำเนินการ โดยนำหลักฐานมอบให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และยื่นถอดถอนเลย ซึ่งการพูดเช่นนี้เป็นการเหมารวม ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าหมายถึงใคร เรามีความเป็นอิสระกัน ไม่ได้ทำงานเพื่อปกป้องรัฐบาล แต่เราตั้งใจเข้ามาทำงานเพื่อประชาชน และยืนยันว่าเราเองก็ไม่ได้มีพฤติกรรมอย่างที่ประธานกล่าวหาเช่นนั้นแน่นอน ถ้าประธานเห็นว่ามีคนทำจริง ก็แจ้งความจับหรือยื่นถอดถอนได้เลย
นางอังคณา กล่าวต่อว่า ตนเคยพูดคุยกับ นพ.สุรเชษฐ์ มาโดยตลอดว่า จะลาออก ยังเคยคิดว่าเราจะลาออกไปก่อนซะอีก แต่นพ.สุรเชษฐ์ ก็ชิงลาออกก่อน ส่วนตนจะลาออกหรือไม่นั้น คงต้องขอรอดูกฎหมายใหม่ที่จะออกมาก่อนว่า กฎหมายให้อำนาจเราทำหน้าที่ปกป้องสิทธิประชาชนได้มากแค่ไหน เพียงพอที่จะช่วยเหลือประชาชนหรือไม่ อย่างไรก็ตามตนมองว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กสม. ถูกลดสถานะโดยสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาตินั้น เป็นเพราะกสม. ชุดนี้เข้ามาในยุคของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เราจึงถูกติงว่ากรรมการสรรหาฯชุดนี้ไม่มีความหลากหลาย ทำให้ได้กสม.ที่ไม่หลากหลาย ไม่สอดคล้องกับหลักการปารีส ดังนั้นการที่ไทยจะมี กสม.ก็จำเป็นต้องสอดคล้องกับหลักการปารีส
"ยินดีถ้าปัญหาที่เกิดขึ้นภายในองค์กรจะเป็นเหตุให้กรรมการสิทธิฯ ถูกรีเซตใหม่ยกชุด เพราะกฎหมายใหม่ได้กำหนดให้กรรมการสรรหาฯ ที่มีความหลากหลาย จึงเห็นสมควรยิ่งว่าควรสรรหากรรมกสม.ใหม่ เพราะคิดว่า กสม. 7 คนมาทำหน้าที่แล้วก็หมดวาระไป แต่สำนักงานกสม. ยังคงต้องอยู่ต่อไป ดังนั้นหากมีการสรรหา กสม.ขึ้นใหม่ กสม.ไทยก็อาจถูกปรับขึ้นสถานะจากบีเป็นเอเช่นเดิมด้วย" นางอังคณา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอังคณา ยังได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวในทำนองเดียวกัน โดยตอนท้ายมีการระบุว่า "บอกตรงๆ จากทีแรกที่ไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้เริ่มกังวลว่าเรื่องนี้อาจเป็นการใช้คำพูดที่สร้างความเกลียดชัง (HateSpeech) ต่อตัวเองในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ กสม. ก็หวังว่าจะไม่ลุกลามจนกลายเป็นการล่าแม่มด แค่นี้ก็อยู่ยากมากแล้ว" นางอังคณา กล่าว
...