"บิ๊กป้อม" ย้ำไม่ผ่อนปรนพรรคการเมืองทำกิจกรรม หลังประกาศใช้ รธน.ใหม่ อ้างสถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย ยันยังไม่เลิก ม.44 ชี้จะเลิกต้องออกเป็น พ.ร.บ. ไม่ฟันธงเหตุบึมใต้เอี่ยว รธน.รับร่วมคิดมาตรการห้ามนั่งท้ายกระบะ

เมื่อวันที่ 7 เม.ย.60 ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม กล่าวถึงข้อเสนอพรรคการเมืองเรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่อนปรนให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ ภายหลังมีรัฐธรรมนูญบังคับใช้ว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย ถามว่าจะผ่อนปรนเพื่อให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมืองได้อย่างไร ทั้งนี้ในฐานะที่ตนดูแลด้านความมั่นคงขอเวลาทำงานก่อน และอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกัน จะมาตีรวนแบบนี้คงไม่ไหว และจะให้ตนตัดสินใจ แล้วนำเรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ก็ยาก

เมื่อถามว่า เมื่อร่างกฎหมายลูกทั้ง 4 ฉบับดำเนินการเสร็จ จะผ่อนปรนให้พรรคการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้อนาคต เมื่อถามถึงความรู้สึกเมื่อมีรัฐธรรมนูญแล้ว อนาคตจะหมดภาระรู้สึกอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้สึกอะไร เราทำเพื่อให้บ้านเมืองสงบ และประชาชนมีความเป็นอยู่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมทั้งช่วยลดปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติ จนนำไปสู่ความปรองดอง ดังนั้นต้องทำแบบนี้ให้ได้ ซึ่งขอย้ำว่าทำแค่นี้

เมื่อถามว่า มีรัฐธรรมนูญแล้ว คำสั่งหรือประกาศ และมาตรา 44 ของ คสช.จะมีการผ่อนปรนหรือยกเลิกหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มียกเลิก เพราะว่าคำสั่ง ประกาศ และมาตรา 44 ของ คสช. ที่ออกมาเป็นถือเป็นกฎหมาย ถ้าจะมีการยกเลิกในอนาคตจะออกเป็น พ.ร.บ.

เมื่อถามว่า แล้วศักดิ์ของกฎหมาย ระหว่างมาตรา 44 กับรัฐธรรมนูญอะไรสูงกว่ากัน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐธรรมนูญสูงกว่าอยู่แล้ว แต่มาตรา 44 บังคับใช้ไปก่อนเหมือนกฎหมาย 

...

เมื่อถามถึงข้อเสนอพรรคเพื่อไทย เรียกร้องว่า หากรัฐธรรมนูญยังคับใช้แล้ว ถ้าเป็นรัฐบาลในอนาคตจะยกเลิก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทำได้ก็ทำไป ถ้ามีอำนาจแล้วประชาชนเห็นด้วยก็ทำได้ทุกอย่าง เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชน ทั้งนี้ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นตัวแทนประชาชนอยากทำอะไรก็เชิญทำได้หมด ถ้าประชาชนยอมรับก็ไม่มีปัญหา

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงเหตุระเบิด 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ขอเวลาหาสาเหตุยังไม่ฟันธงว่าเกี่ยวข้องกับประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ หรือประกาศพลังของกลุ่มบีอาร์เอ็น พร้อมยอมรับร่วมคิดมาตรการรัดเข็มขัด ห้ามนั่งแค็บและห้ามนั่งท้ายกระบะรถปิกอัพ เนื่องจากอยากดูแลประชาชนไม่ให้ตายเยอะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นห่วงประชาชนกลัวตายเยอะ เพราะ 3 ปีที่ผ่าน ตายเยอะขึ้นทุกปี