"ป๋าเปรม" เปิดงาน "สานใจไทย สู่ใจใต้" รุ่น 30 ย้ำทุกคนทุกศาสนามีสิทธิเท่าเทียมกัน ภายใต้ รธน.ฉบับเดียวกัน ฝากเยาวชนทุกคน สำนึกเป็นคนไทย ตอบแทน-เป็นคนดีของประเทศไทย
เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 60 ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานเปิดโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" รุ่นที่ 30 โดยในรุ่นนี้มีเยาวชนเข้าร่วมจำนวน 321 คน เป็นเยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลาม จำนวน 229 คน เยาวชนนับถือพุทธศาสนา จำนวน 91 คน และเยาวชนนับถือศาสนาคริสต์ จำนวน 1 คน ซึ่งในการเปิดโครงการครั้งนี้ มี พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ องคมนตรี พร้อมผู้แทน ผบ.เหล่าทัพ รอง ผบ.ตร.และและผู้แทนภาครัฐเข้าร่วม
โดย พล.อ.เปรม กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า โครงดังกล่าวเริ่มมาจาก พ.ศ. 2547 เป็นการช่วยเหลือประเทศชาติ ลดความไม่เข้าใจของแต่ละศาสนา ตนได้ทราบถึงเสียงสะท้อนจากเยาวชนมุสลิมว่า ได้รับความไม่เป็นธรรม เนื่องจากนับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งตนได้บอกกับเยาวชนคนดังกล่าวว่า ความไม่เป็นธรรมมีอยู่ทั่วโลก ไม่เฉพาะในประเทศไทย จึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันแสวงหาความเป็นธรรม และสร้างความเข้าใจให้เยาวชนไทยที่เป็นมุสลิม ได้รับความเท่าเทียมเช่นเดียวกับคนที่นับถือศาสนาพุทธหรือศาสนาอื่น
พล.อ.เปรม กล่าวต่อว่า ไม่มีอะไรแตกต่างเพราะทุกกระบวนการทั้งศาล อัยการ ตำรวจในประเทศ ล้วนแต่เป็นของแผ่นดินไทย ทุกคนอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ซึ่งจะมีพระราชพิธีประกาศใช้ รธน.ฉบับปี 2560 ในวันพรุ่งนี้ ทุกคนจึงมีสิทธิเท่าเทียมกัน และขอให้เยาวชน และครอบครัว ที่นับถือศาสนาอื่นๆ ทำความเข้าใจกับเยาวชนว่า เป็นคนไทย มีสิทธิเท่าเทียมกัน ความระหองระแหงระหว่างไทยพุทธและไทยมุสลิมจะหมดไป อย่างไรก็ตาม เราเป็นคนไทยต้องรักชาติไทย ต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดินไทย และทำตัวเป็นคนดีของประเทศไทย.
...