"วิษณุ" เตือนหน่วยงานรับผิดชอบเร่งทำกฎหมาย เพราะมีโทษหนัก เชื่อ ก.ม.3 ฉบับ "สิ่งแวดล้อม-วินัยคลัง-ร่วมต้านทุจริต" ส่ง สนช.ทัน 240 วัน แจงรับฟังความเห็นไม่ต้องเอิกเกริก

เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 60 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเรียกประชุมปลัดทุกกระทรวง เพื่อเตรียมตัวรับรัฐธรรมนูญใหม่ว่า เป็นการติดตามผลการประชุมที่มีก่อนหน้านี้ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมจะสรุปผลการดำเนินงานของแต่ละหน่วยงานว่าทำอะไรไปบ้าง มีปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง ในฐานะเป็นเจ้าของเรื่อง จากนั้นสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะชี้แจงขั้นตอนว่าแต่ละหน่วยงานต้องทำอะไรบ้างในช่วงเวลา 3 เดือน 6 เดือน 8 เดือน หรือ 12 เดือน นับจากนี้

นายวิษณุ กล่าวต่อว่า กฎหมายบางฉบับถ้าทำไม่เสร็จตามเวลาที่กำหนด อาจไม่มีผล แต่บางฉบับที่รัฐธรรมนูญให้ความสำคัญต้องทำภายใน 240 วัน อาทิ กฎหมายที่เกี่ยวกับการรับฟังความเห็นของประชาชนหรือชุมชน กฎหมายวินัยการคลัง และกฎหมายที่เกี่ยวกับการเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการต่อต้านทุจริต ถ้าทำไม่ทันจะมีผลอะไรบ้าง เพราะมีการระบุไว้ชัดเจนว่า หากเจ้าของเรื่องไม่รีบทำเสนอ สนช.ตามกำหนด ให้หัวหน้าหน่วยงานราชการนั้นต้องพ้นจากตำแหน่ง

ส่วนจะต้องออกเป็นกฎหมายใหม่หรือไม่นั้น ต้องสอบถามจากหน่วยงานเจ้าของเรื่อง ทราบว่ากฎหมายวินัยการเงินการคลัง จะออกมาเป็น พ.ร.บ.ฉบับใหม่ เพราะถือเป็นการเซตซีโร่ เราไม่เคยมีกฎหมายนี้มาก่อนต้องรีบดำเนินการให้ทัน ตนเป็นคนพูดถึงร่างกฎหมาย 3 ฉบับดังกล่าวใน ครม.เพื่อเป็นการเตือนให้รู้ เพราะเกรงว่าจะลืมกัน เป็นการโชว์ผลงานไม่มีอะไรน่าสงสัย ที่เตือนเพราะเห็นว่ามีบทลงโทษหัวหน้าหน่วยงาน และความจริงตนก็ชอบกฎหมายที่เขียนไว้แบบนี้ โทษหนักถึงหลุดจากตำแหน่ง งานจะได้ไม่อืด

...

เมื่อถามว่า ระยะเวลา 240 วัน หน่วยงานที่เป็นเจ้าของเรื่องจะทำเสร็จทันหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เสร็จทันแน่นอน เพราะไม่ใช่เรื่องใหญ่ บางเรื่องไปแก้ไขบทบัญญัติบางมาตราในกฎหมายบางฉบับเท่านั้น หน่วยงานเจ้าของเรื่องมีแนวคิดไว้แล้ว

เมื่อถามว่า การออกกฎหมายที่มีเงื่อนเวลากำหนดไว้ จะต้องทำตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดต้องรับฟังความเห็น อาจเสร็จไม่ทันตามกรอบเวลา นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องทำตามมาตรา 77 และเชื่อว่าทันตามกรอบเวลา และการรับฟังความเห็นไม่จำเป็นต้องเอิกเกริกหรือไปทำประชามติ หน่วยงานนั้นสามารถเอาขึ้นเว็บไซต์ เพื่อเปิดรับฟังความเห็นได้ ถือเป็นความเห็นของประชาชนแล้ว

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องแก้ไขตามที่รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนมาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า รับฟังกับเชื่อฟังมันต่างกัน รับฟังคือการเปิดโอกาสให้เขาได้แสดงความคิดเห็น เราก็เอามาดูว่าจะเชื่อหรือไม่ โดยที่การรับฟังนี้เราจะเอาไปใช้ทุกขั้นตอน อย่างไรก็ตาม เวลา 240 วัน ที่หน่วยงานต้องเสนอเข้า สนช. ไม่เกี่ยวกับการใช้เวลาพิจารณาของ สนช. และเชื่อว่าไม่น่าจะมีการรวบรัดในการออกกฎหมาย ตามที่อาจมีข้อกังวล.