สนช.ลงมติผ่านฉลุย 152-0 ชงคำถามพ่วงประชามติ ให้ ส.ว.โหวตนายกฯใน 5 ปีช่วงเปลี่ยนผ่าน ก่อนส่งคำถามไปยัง กกต.เพื่อทำประชามติต่อไป...
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 7 เม.ย.2559 ที่ประชุม สนช.เข้าสู่วาระการพิจารณาประเด็นคำถามของ สนช.ที่จะเสนอต่อคณะ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการจัดให้มีการออกเสียงประชามติตามมาตรา 39/1 วรรคเจ็ด ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557
นายกล้านรงค์ จันทิก รองประธานคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาศึกษา เสนอแนะ และรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ สนช. คนที่ 1 กล่าว่า ความเห็นที่ส่งมา ส่วนใหญ่เสนอเรื่องเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ ส.ว. ให้ร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในระยะเปลี่ยนผ่านได้หรือไม่ หลังจากรวบรวมความเห็นแล้ว กมธ.ฯ เห็นว่าควรเสนอคำถามโดยเน้นความเห็นของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เป็นหลักในการพิจารณา จึงเห็นว่าควรตั้งคำถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ เพื่อให้การปฏิรูปประเทศเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ ควรกำหนดในบทเฉพาะกาลว่าระหว่าง 5 ปีแรก ตั้งแต่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ ให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาเป็นผู้พิจารณาเห็นชอบบุคคลสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกฯ
ทั้งนี้ สมาชิกส่วนใหญ่อภิปรายเห็นด้วยกับการให้ตั้งคำถามพ่วงประชามติ ก่อนที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.ขอมติที่ประชุมว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่ สนช.จะส่งคำถามประชามติต่อ กกต. โดยที่ประชุมมีมติเห็นด้วย 142 เสียง ไม่เห็นด้วย 16 เสียง งดออกเสียง 9 เสียง
ต่อมา นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ในส่วนประเด็นคำถาม ที่ประชุม สนช.เห็นชอบหรือไม่ว่าเพื่อให้การปฏิรูปประเทศต่อเนื่องตามแผน ยุทธศาสตร์ชาติ สมควรกำหนดใน บทเฉพาะกาลว่าระหว่าง 5 ปีแรกนับตั้งแต่มีรัฐสภาชุดแรก ให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเป็นผู้ให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรแต่งตั้ง เป็นนายกรัฐมนตรี สุดท้าย ที่ประชุมมีมติเห็นด้วย 152 ต่อ 0 เสียง และงดออกเสียง 15 เสียง
จากนั้น นายพรเพชร แจ้งว่าเมื่อที่ประชุมเห็นชอบแล้ว จะส่งคำถามให้กกต.เพื่อทำประชามติต่อไป ก่อนสั่งปิดการประชุมในเวลา 18.30 น.
...