รัฐบาลลุยสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง อ้างคน 99% เห็นด้วย รอลุ้นผลอีไอเออีก 6 เดือน ถ้าผ่านเดินหน้าสร้างทันที ยัน ไม่บดบังทัศนียภาพ–ไม่ตัดต้นไม้ ใช้เทคโนโลยีต่างประเทศ...

เมื่อวันที่ 25 ก.พ. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบผลการศึกษาโครงการการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง จ.เลย ตามที่องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) เสนอว่า รัฐบาลจะเดินหน้าสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง จ.เลย มูลค่า 633 ล้านบาท โดยจะแบ่งใช้งบประมาณออกเป็น 3 ปี ปีละ 200 ล้านบาท เพื่อนำไปดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งผลการสำรวจความเห็นจากหลายหน่วยงาน การรับฟังเสียงจากประชาชนในพื้นที่ ชาวบ้าน ภาครัฐ นักธุรกิจ ภาคเอกชน ยืนยันว่ามีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ สามารถสร้างรายได้มหาศาล สร้างงานเพิ่มขึ้นให้กับคนในพื้นที่ และจะทำให้นักท่องเที่ยวมีจำนวนมากขึ้น เนื่องจากจะมีความสะดวกสบายในการเดินทางขึ้นภูกระดึง ตนยืนยันว่าจากการพูดคุยกับคนในพื้นที่ จ.เลย และจังหวัดใกล้เคียงเห็นด้วยกับเรื่องนี้ และมีความต้องการอยากได้กระเช้าขึ้นภูกระดึงเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยว และการสร้างรายได้

...

พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ประโยชน์จาการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงคือ 1. สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับพื้นที่ 2. เพิ่มความปลอดภัยในการลำเลียงนักท่องเที่ยวที่เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ และ 3. การดูแลรักษาความปลอดภัย และการรักษาความสะอาดจะทำได้ง่าย เพราะมีความสะดวกสบาย อย่างไรก็ตาม ในส่วนผลกระทบสิ่งแวดล้อมและปัญหาที่ตามมานั้น ได้มีการศึกษาเรื่องนี้เป็นอย่างดีแล้ว และเห็นว่าถ้าสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงจริงจะสามารถควบคุมปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นมาได้ สำหรับการสร้างครั้งนี้จะใช้เทคโนโลยีใหม่จากต่างประเทศ โดยการเจาะหลุม ไม่มีการตัดต้นไม้ ใช้พื้นที่ในการสร้างฐานกระเช้าแค่ 1 ไร่เท่านั้น ส่วนจุดที่ตั้งจะอยู่ในหุบ ที่ไม่บดบังทัศนียภาพของภูกระดึง

"ขณะนี้คณะกรรมการรอลุ้นผลการพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) อยู่ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ถ้าอีไอเอผ่าน คาดว่าจะใช้เวลา 2–3 ปีในการสร้างกระเช้า และขอยืนยันอีกครั้งว่า จากการหารือ พบว่าคน 99.99% เห็นด้วย มีไม่ถึง 1% เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย" พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าว.