อย่างน้อยก็สะท้อนว่า ไม่ได้เตี๊ยมกันมาก่อน
จากปรากฏการณ์ที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ โยนทุ่นสูตรใหม่ ขยายเวลาโรดแม็ปจาก 6-4-6-4 เป็น 6-4-8-5 ต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเป็นปลายปี 2560
ชิงล็อกคิวตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติหรือไม่
ซึ่งนั่นก็เป็นจังหวะการ “หักมุม” กับที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.ได้ประกาศย้ำสัญญาประชาคมให้ได้ยินไปทั่วโลก ตั้งแต่ก่อนการเปิดโชว์โฉมร่างรัฐธรรมนูญฉบับ “มีชัย” ร่างแรกเรียงรายมาตรา
ยืนยันเลย ไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะโดนคว่ำหรือไม่ ก็ต้องพยายามจัดเลือกตั้งให้ได้ในเดือนกรกฎาคม 2560 ตามโรดแม็ป
“ประยุทธ์-มีชัย” ไปกันคนละทิศ “ผิดคิว” กันอย่างจัง
เรื่องของเรื่อง มันก็ทำให้เกิดช่องโหว่ที่มองจากภายนอกเห็นร่องรอยของอาการ “จูนคลื่น” ไม่ตรงกัน หางเสือ “เรือแป๊ะ” เริ่มไปกันคนละทาง
จุดหมายปลายทางชักจะเคว้งคว้าง
ที่แน่ๆว่ากันตามบรรยากาศโดยรวมมันก็เริ่มไม่ขลัง ตามแนวโน้มอย่างที่นายมีชัยประกาศแกมขู่ฝ่ายต่อต้าน ถ้าคว่ำร่างรัฐธรรมนูญนี้ เจอร่างใหม่อาจจะโหดกว่าเดิม
แต่นักเลือกตั้งอาชีพไม่ได้แหยงกลัวเลย
และก็เป็นอะไรที่สังเกตว่า มวยเก๋าที่ซุ่มมานาน เริ่มออกจากมุมกันแล้ว
ตามจังหวะการออกมาของนักการเมืองรุ่นเดอะอย่างนายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา ที่พูดชัดเลยว่า ไม่มีประเทศใดในโลกสงบสุขร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่ทุกประเทศแก้ปัญหาด้วยการเลือกตั้ง
เตือนนักรัฐประหารให้กลับไปศึกษาประวัติศาสตร์ที่เป็น “จุดจบ” ของนักรัฐประหาร ไม่ว่าจะเป็นรุ่น จอมพล ป.พิบูลสงคราม จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นพลเอกเป็นจอมพลทั้งนั้น แต่อยู่รอดปลอดภัยกี่คน
จุดจบโดนประชาชนขับไล่ ไปไม่รอดสักราย
แน่นอน ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะมองข้ามหรือเอาหูทวนลมได้ แต่บังเอิญด้วยเกียรติประวัติครั้งอดีตของนายอุทัย เคยติดคุกเพราะเป็นหัวขบวน ส.ส.ยื่นฟ้องศาลให้ดำเนินคดีกับคณะรัฐประหารยุคจอมพลถนอม ในโทษฐานกบฏมาแล้ว
มีประกาศนียบัตรการันตีด้วยวีรกรรมห้าวๆกับท็อปบูต
คำเตือนของยี่ห้อ “อุทัย พิมพ์ใจชน” ถึงขุนทหาร ย่อมดังกว่าบุคคลอื่น
และที่ลืมไปไม่ได้ ในจังหวะที่กระแสคว่ำรัฐธรรมนูญ เร้าการเลือกตั้งตามโรดแม็ป หันไปอีกด้านก็ชิงพื้นที่ข่าว มีความเคลื่อนไหวบนสื่อตลอด กับฉากที่อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินสายทัวร์ ทำบุญ ในพื้นที่อีสาน ภาคกลาง เหนือ
ลากกระแสเลี้ยงเรตติ้งได้ต่อเนื่อง ไม่มีตก
ตามกระแสข่าวล่าสุดที่คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความผิดทางละเมิด ได้เคาะโต๊ะสรุปความผิดอดีตนายกฯหญิงคนแรกของประเทศไทยในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ส่งให้ขุนคลังเดินหน้าลุย
เช็กบิลหลักแสนล้านบาท
ล้อกับสัญญาณจากฝ่ายคุมเกมอำนาจที่ส่งผ่าน “โหรท็อปบูต” นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ที่นั่ง “ทางใน” ส่อง “ทางนอก” บอกไว้ตั้งแต่ช่วงปีใหม่ว่า ช่วงกลางปีนี้ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์จะบินหนี ตามรอยพี่ชายอย่างอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ไประหกระเหินอยู่ต่างประเทศ
ถูกตราหน้าจากฝ่ายต่อต้านในเมืองไทยว่า “ขี้โกง” หนีคดี
แต่อย่างไรก็ดี จับลีลา ประเมินการเคลื่อนไหวของอดีตผู้นำหญิงที่ยังนิ่ง เดินสายพบปะกองเชียร์แบบชิวๆเหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนกับชะตาเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางที่รออยู่ข้างหน้าอันใกล้
ในมุมมองของนักเลือกตั้งอาชีพต่างก็ฟันธงตรงกัน เทียบกันพี่กับน้อง
“ยิ่งลักษณ์” ใจถึงกว่า “ทักษิณ” เยอะ.