เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง จุดที่กระทรวงพาณิชย์ต้องปรับลดเป้าหมายการส่งออกเหลือ “ศูนย์เปอร์เซ็นต์”
การปรับลดเป้าส่งออกเหลือศูนย์เปอร์เซ็นต์ แสดงว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ไม่กระเตื้องขึ้นจากปีที่ผ่านมา
เผลอๆปีนี้จะแย่กว่าปีก่อนด้วยซ้ำไป
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ว่าการส่งออกปีนี้อาจ “ติดลบต่ำกว่าศูนย์เปอร์เซ็นต์”
เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวอย่างที่คาดกัน
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ เราก็ไม่ถึงกับแย่เกินไป
ยังพอถูลู่ถูกังไปได้แบบหืดขึ้นคอ
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า ถึง แม้การส่งออกซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจไทยจะเดี้ยงยาว
แต่การท่องเที่ยวไทยปีนี้ขยายตัวจากปีก่อนถึง 23 เปอร์เซ็นต์
คาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาทัวร์เมืองไทยไม่ต่ำกว่า 28 ล้านคน
หวังว่าปีนี้ธุรกิจท่องเที่ยวจะโกยรายได้เข้าประเทศเป็นกอบเป็นกำ
“แม่ลูกจันทร์” พยายามมองแง่ดี ถึงแม้การส่งออกปีนี้จะร่อแร่ยักแย่ยักยัน
แต่ผลจากค่าเงินบาทที่อ่อนลง จะช่วยให้รายได้จากการส่งออก (เมื่อแปลงเป็นเงินไทย) ยังเสมอตัว
ข้อสำคัญ ผลจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่อ่อนลงอีก 7 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นตัวดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้นในปีหน้าอย่างแน่นอน
ถ้าไม่เกิดเหตุวุ่นวายขายปลา ช่อนซ้ำรอย 2 ปีที่ผ่านมา
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า ปัญหาการส่งออกติดลบก็หนักอยู่แล้ว แต่ปัญหาหนักกว่าคือ เศรษฐกิจภายในที่อยู่ในภาวะซึมกะทือ
วิกฤติภัยแล้ง และราคาข้าวตกต่ำทำให้ชาวนาเดือดร้อนหนักที่สุดในรอบ 10 ปี
ปัญหาราคายาง และราคาปาล์มตก รูดมหาราช
ทำให้ชาวสวนยาง ชาวสวนปาล์มขาดทุนอ่วมอรไท
ผลกระทบจากการส่งออกติดลบทำให้แรงงานภาคอุตสาหกรรมตกงานกันระนาว
เมื่อการทำมาหากินฝืดเคือง ชาวบ้านไม่มีเงินในกระเป๋า เศรษฐกิจในประเทศก็หงอยเป็นไก่ง่วงด้วยประการฉะนี้แล
“แม่ลูกจันทร์” จึงเห็นด้วยที่นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตัดสินใจควักงบกลางสำรองฉุกเฉิน 6,541 ล้านบาท อัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้าเพิ่มเติม
หลังมาตรการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ครั้งนี้รัฐบาลจะอัดฉีดเงินใส่กระเป๋าเกษตรกรโดยตรง
เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระดับล่าง “ระยะด่วนจี๋” ให้เห็นผลทันตาในเวลาไม่เกิน 3 เดือน
วิธีง่ายที่สุด เร็วที่สุด คืออัดฉีดเงินจ้างแรงงานประชาชนทั่วประเทศ 76 จังหวัด (ยกเว้น กทม.) ให้ทำโครงการพัฒนาอาชีพของตัวเอง
โดยจะมีการทำสัญญาจ้างงานให้เสร็จภายในเดือนกันยายน
ตั้งเป้าให้เม็ดเงินอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนฉุกเฉิน 6,541 ล้านบาท กระจายเป็น 4,500 โครงการ
จะมีเกษตรกรได้รับประโยชน์ 1.4 ล้านครัวเรือน
“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่าการแจกเงินประชาชนกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้าเป็นเรื่องดี
ดีกว่าเอางบกลางไปซื้อเรือดำนํ้าแน่นอน
ขออย่างเดียว...อย่าให้ใครอมเงินประชาชนไปเข้ากระเป๋าตัวเองก็แล้วกัน.
แม่ลูกจันทร์