กำลังอยู่ในขั้นตอนสำคัญเพื่อปรับแก้รัฐธรรมนูญร่างแรกของ กมธ.ยกร่างฯ ซึ่งมีเงื่อนไขเวลาเป็นตัวกำหนด ดีที่มีการขยายเวลาเพิ่มเติมอีก 30 วัน ดังนั้นเวลาจึงไม่ใช่ปัญหา แต่เนื้อหาสาระมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมุ่งไปสู่การปฏิรูปให้เกิดผล
จริงอยู่ในร่างแรกที่ออกมานั้นมีส่วนดีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่อีกหลายส่วนดูเหมือนจะถูกโจมตีจนเกิดแรงกดดันให้แก้ไขใหม่
ถึงขั้นประกาศ “คว่ำ” กันเลยทีเดียว
เท่าที่ฟังมา กมธ. ยกร่างฯ ยินยอมที่จะแก้ไขอยู่หลายประเด็นนั่นย่อมทำให้เสียงท้วงติงเบาบางลง แต่ก็ยังตั้งแง่ว่าจะแก้ไขกันนั้นยังไม่เพียงพอ เป็นการลดแรงกดดันเท่านั้น ไม่ได้มีความจริงใจที่จะแก้ไขตามเสียงเรียกร้อง
พูดง่ายๆว่าซ่อนเร้นอำพรางมากกว่า
เหนืออื่นใด กมธ.ยกร่างฯ ก็ต้องมั่นคงในหลักการที่คิดว่าเพื่อจะนำไปสู่เป้าหมายของการปฏิรูปและแก้ไขปัญหาการเมืองที่เป็นจริงด้วย
ที่สำคัญก็คือจะต้องไม่กลัวต่อแรงต่อต้านหรือคัดค้านจนเกินเหตุ แม้กระทั่งการที่ สปช. บางกลุ่มพยายามกดดันถึงขั้นจะ “คว่ำรัฐธรรมนูญ” ก็ตาม
เพราะหากต้องยอมทุกอย่างที่ สปช.บางกลุ่มต้องการหรือการที่นักการเมืองพยายามบีบและกดดัน เพื่อให้เป็นไปตามที่พวกเขาพยายามที่จะให้เป็นไปเช่นนั้น
ตรงนี้ต่างหากที่ กมธ. ยกร่างฯ จะต้องตั้งมั่นให้ดีไม่เอนเอียงไปตามเสียงเรียกร้องจนละเลยต่อหลักการใหญ่ที่คิดว่าน่าจะเป็นทางออกของประเทศ
แม้ว่ารัฐธรรมนูญจะไม่ผ่านในการลงมติของ สปช. ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องไปกังวลจนเกินเหตุ เพราะหากไม่ผ่านก็ไปว่ากันใหม่เนื่องจากมีขั้นตอนต่างๆวางเอาไว้แล้ว
นั่นคือ สปช. และ กมธ.ยกร่างฯ ต้องพ้นจากตำแหน่ง แต่ก็จะมีการตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและคณะกรรมการแก้ไขรัฐธรรมนูญชุดใหม่
เพียงแต่ในความรับผิดชอบที่อยู่ในมือ กมธ.ยกร่างฯชุดนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างรัฐธรรมนูญด้วยเนื้อหาสาระที่มุ่งแก้ไขปัญหาจริงๆ ไม่ใช่เป็นรัฐธรรมนูญที่มุ่งตอบสนองตามความต้องการของนักการเมืองและ สปช.บางกลุ่มเท่านั้น
หรือที่มีความพยายามปล่อยข่าว สปช. บางคนว่า กมธ.ยกร่างฯ หวั่นว่ารัฐธรรมนูญจะไม่ผ่านด้วยการ “ล็อบบี้” สปช. ให้ลงคะแนนเพื่อให้รัฐธรรมนูญผ่าน
จะมีความเคลื่อนไหวอย่างนั้นจริงหรือไม่ก็ไม่ทราบได้ แต่เมื่อรูปการณ์ออกมาอย่างนี้ย่อมไม่เป็นผลดีต่อ กมธ.ยกร่างฯเอง
อันจะทำให้ความเชื่อถือ ศรัทธาหมดไปทันที
ยิ่งไปกว่านั้นแนวคิดใหม่ๆ ที่คิดค้นกันขึ้นมาเพื่อสร้างรัฐ-ธรรมนูญด้วยนวัตกรรมใหม่ๆที่ไม่เคยคิดกันมาก่อน ด้วยเชื่อว่าจะทำให้รัฐธรรมนูญสามารถผ่าทางตันประเทศได้ก็จะไร้หมายความและยิ่งจะทำให้สาระดีๆต้องตกไปด้วย
มีทางเดียวสิ่งที่ต้องยืนหยัดและตอบสังคมได้ว่าแนวคิดอย่างนี้จะทำให้การเมืองดีขึ้นในลักษณะที่สร้างสรรค์ย่อมทำให้ สปช. ที่แม้จะยังไม่แสดงออกด้านความคิดเห็น ทำให้พวกเขามั่นใจและให้การสนับสนุนด้วยการให้รัฐธรรมนูญผ่านได้
ยิ่งไปกว่านั้นประชาชนที่มีสิทธิในการลงประชามติ หากร่างรัฐธรรมนูญผ่านความเห็นชอบจาก สปช. แล้วก็จะเข้าใจมากยิ่งขึ้น
“ประชามติ” ก็จะผ่านความเห็นชอบจากประชาชน
ต่างๆเหล่านี้ก็จะส่งผลให้โรดแม็ปของ คสช. ที่วางเอาไว้ก็จะผ่านพ้นไปตามเงื่อนไขเวลาที่กำหนดเอาไว้จนนำไปสู่การเลือกตั้งในที่สุด
เท่ากับว่าทุกฝ่ายได้ทำหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบแล้ว.