พระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รับสนองพระบรมราชโองการมีผลแล้วตั้งแต่วันนี้ วันที่ 7 สิงหาคม 2557
หลังรัฐพิธีเปิดการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้วเป็นที่คาดหมายว่าอาจจะมีการนัดหมายประชุมตามระเบียบวาระเป็นครั้งแรกในวันที่ 8 สิงหาคม 2557 คือวันพรุ่งนี้
เป้าหมายสำคัญคือ การเลือก ประธาน และ รองประธาน ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงต้องใช้ข้อบังคับชั่วคราวมาดำเนินการเพราะสภาชุดนี้ยังไม่มีข้อบังคับของตัวเอง
โดยที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับนี้กำหนดไว้ในวรรคสองของมาตรา 13 ว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีอำนาจตราข้อบังคับเกี่ยวกับ การเลือก และการปฏิบัติหน้าที่ของประธานสภา รองประธานสภา และกรรมาธิการ ฯลฯ
ถ้ามีการเลือกประธานสภาและรองประธานสภาเสียก่อนมีข้อบังคับก็จะดูแปลกๆ ไปคือ อาจจะไม่ได้ใช้ข้อบังคับในส่วนนี้เลยตลอดอายุของสภาถ้าหากว่าประธานและรองประธานไม่ตายหรือลาออกหรือพ้นตำแหน่งไปด้วยเหตุผลประการอื่น
แต่เอาเถิดจะรีบเลือกประธานสภาเพื่อรีบหาตัวนายกรัฐมนตรีหรือจะรอให้มีข้อบังคับอย่างเป็นทางการก่อนก็สามารถทำได้ทั้งนั้น
เพราะตัวบุคคลที่ได้รับการวางตัวให้เป็น ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ผู้มีหน้าที่สำคัญในการลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้ง นายกรัฐมนตรี นั้นก็รู้กันอยู่แล้วว่าคือ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ซึ่งเป็นอดีตผู้พิพากษาที่ทำหน้าที่ที่ปรึกษา คสช.อยู่ก่อนหน้านี้
จะเลือกเร็วเลือกช้าก็ต้องเป็นท่านประธานพรเพชร วันยังค่ำ
จริงๆแล้วตำแหน่งที่น่าสนใจพอๆกันก็คือ รองประธานสภานิติ บัญญัติแห่งชาติ ซึ่งกำหนดให้มีได้ไม่เกินสองคน
ตำแหน่งนี้ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นรองซึ่งสามารถทำหน้าที่แทนประธานได้ทั้งในการประชุมสภาหรือกิจการอื่นๆ
มีการกล่าวขานถึงหรือแสดงท่าทีว่าพร้อมที่จะเข้ามาทำหน้าที่นี้กันหลายคนในบรรดา สนช.ทั้งหลาย อาทิ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อดีตรองประธานวุฒิสภา ผู้เพิ่งได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภาในชุดที่แล้ว แต่ไม่ทันได้ทำหน้าที่ มาคราวนี้ตั้งท่าจะลงชิงตำแหน่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติด้วย แต่ดูทิศทางลมแล้วถอยดีกว่า มาอาสาเป็นรองประธานก็พอ
อีกรายก็คือ นายพีระศักดิ์ พอจิต อดีต ส.ว.เลือกตั้งจากจังหวัดอุตรดิตถ์ในวุฒิสภาชุดล่าสุดและได้รับเลือกให้เป็นรองประธานวุฒิสภาด้วย แต่ไม่ทันได้แสดงฝีมือ ตอนนี้ก็แสดงตัวว่าขอแข่งเป็นรองประธานอีกคน
นอกจากนั้น ยังมีกระแสข่าวว่า รองประธานคนที่ 1 นั้นควรเป็น นายทหารอาวุโส ไว้เผื่อเหลือเผื่อขาดในการรองรับกับสถานการณ์ ซึ่งก็มีเหตุผล เพราะสภาชุดนี้มีทหารเป็นองค์ประกอบสำคัญอยู่แล้ว
มีข้อเสนอประการหนึ่งคือ ควรเลือก สนช.สตรี ซึ่งมีอยู่สิบกว่าคนขึ้นมาเป็นรองประธานสภาสักหนึ่งคนอาจจะเป็น คุณพรทิพย์ จาละ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกามือกฎหมายชั้นยอด หรือ นางนิพัทธา อมรรัตนเมธา อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดหญิงเหล็กนักปกครองชั้นเยี่ยมก็ย่อมได้
คิดว่าจะทำให้สภานิติบัญญัติชุดนี้ดูดีมีสง่าราศรีขึ้นอีกมาก.
“ซี.12”