ตอนหนึ่ง ในหนังสือ เล่าความหลังครั้งสงคราม (สำนักพิมพ์พิมพ์คำ) คุณโกวิท ตั้งตรงจิตร เขียนถึงแนวรบ อ่าวมะนาว ตอนที่ญี่ปุ่น บุกยึดประเทศไทย (8 ธ.ค. 2484) ไว้ให้เข้าใจว่า

ทหารอากาศ กองบิน 5 กำลังน้อยต้านทานไม่ไหว ญี่ปุ่นบุกยึดเมืองประจวบคีรีขันธ์ ไว้ได้ง่ายๆ

ผมใช้ข้อมูลนี้ เขียนในคอลัมน์นี้...ก่อความไม่สบายใจ ให้กับเหล่านักรบ...กองบิน 5 ที่ยังมีชีวิตอยู่อีกหลายคน เพราะความจริง...เหล่าทหารสู้อย่างพลีกายถวายชีวิต ชนิดที่ต้องประเมินผลว่า...รบไม่แพ้

แผนกกิจการพลเรือน กองบังคับการ กองบิน 5 กองพลที่ 4 กองบัญชาการยุทธทางอากาศ...บันทึกถึง...วีรกรรมทหารกองบิน 5 พิมพ์เป็นเล่มแล้ว 2 ครั้ง ผมขออนุญาตถ่ายทอดดังต่อไปนี้

แผนปฏิบัติการรุก เวลา 05.00 น. วันที่ 8 ธ.ค.2484 ทหารญี่ปุ่นใช้เรือท้องแบนหุ้มเกราะลำเลียงพลขึ้นบก...เป้าหมายกองบินน้อยที่ 5 และจังหวัดประจวบฯ มีเรือขนาดใหญ่จอดทอดสมอ อยู่หลังเกาะเหลือม ห่างฝั่่ง 3 กม.

แต่ก่อนเริ่มแผน...มีเหตุการณ์ ทำให้ทหารไทยได้รู้ล่วงหน้า

ก่อนหน้านั้น...เมื่อ 7 ธ.ค. มีวิทยุจากกองบัญชาการทหารอากาศว่า ผู้บังคับบัญชาระดับสูง จะมาตรวจเยี่ยม...เรืออากาศตรี สมศรี สุจริตธรรม ได้รับคำสั่งให้เอาเรือออกหาปลา...เอาไว้เลี้ยงต้อนรับ

เวลา 03.00 น. ทหารหาปลาอยู่ชายฝั่งด้านอ่าวมะนาว เห็นเรือท้องแบน ทหารญี่ปุ่น จึงกลับมารายงาน...เวลา 04.00 น. ทหารญี่ปุ่นส่วนหนึ่ง ได้รุกเข้าปะทะกับฝ่ายไทยถึงตัวเมืองประจวบ

กองบินน้อย 5 สั่งอพยพครอบครัวทหาร...ขึ้นไปอยู่ในจุดปลอดภัยบนเขาล้อมหมวก แล้วเริ่มการสู้...เครื่องบินรบ 3 เครื่องทะยานขึ้นฟ้า ...แต่ก็ถูกญี่ปุ่นยิงทันทีร่วง 3 ลำ

เครื่องบินลำเดียว รอดกระสุนญี่ปุ่นเหินขึ้นฟ้า นักบินตั้งใจจะทิ้งระเบิด 250 ปอนด์ ใส่เรือใหญ่ญี่ปุ่นแต่เนื่องจากฝนตกหนัก ลมพัดแรงจัด...ทัศนวิสัยแย่...นักบินเห็นเกาะวัวตาเหลือก คิดว่าเป็นเรือญี่ปุ่น ก็ทิ้งระเบิดเข้าใส่

เวลา 05.00 น. ผลการรบ...แนวรบด้านนี้...กองกำลังฝ่ายไทย ถูกทำลายเกือบไม่มีเหลือ

เวลา 08.30 น. 8 ธ.ค. แนวรบด้านอ่าวมะนาว ญี่ปุ่นส่งกองกำลังเพิ่ม เรือลำเลียงท้องแบนหุ้มเกราะ 3 ลำมุ่งหน้าเข้าหาด้านซ้ายเขาล้อมหมวก เรืออากาศตรี สมศรี สุจริตธรรม คุมทหาร 10 นาย ยิงทหารญี่ปุ่นในเรือลำแรก...ตายหมด

เรือลำที่ 2 ญี่ปุ่นหันข้างหุ้มเกราะเข้าหาฝั่ง...ทหารไทยยิงไม่ถูก พลทหารแม้น พราหมณ์น้อย ทิ้งปืนถอดเสื้อ วิ่งลงทะเลลอยคอไปดึงท้ายเรือทหาร ให้หันข้างเข้าหาปืน...ทหารไทยยิงญี่ปุ่นตายหมดเป็นลำที่ 2

ขณะเรือจม พลฯแม้น...ลอยคอกลับขึ้นฝั่ง ได้อย่างปลอดภัย

เรือญี่ปุ่นลำที่ 3 มุ่งหน้าเข้ามา เห็นสถานการณ์ตรงหน้า...ก็เบนหัวเรือแล่นหนีออกทะเล

ทหารไทยเอาชนะแนวต้านทานส่วนหน้าได้ ขณะที่แนวต้านทานแตกหักชั้นใน...ก็พร้อมสู้...เวลา 10.00 น. มีคำสั่งจากหน่วยเหนือ ให้เผาทำลายกองร้อยทหาร และหมวดเสนารักษ์ แต่ทหารญี่ปุ่นก็ยังหนุนเนื่อง

การสู้รบดำเนินต่อ เวลา 11.00 น. 9 ธ.ค. สถานการณ์ย่ำแย่ลงทุกที ปืนใหญ่ที่เหลือกระบอกเดียวก็เกิดขัดข้อง...หน่วยเหนือสั่งเผาคลังน้ำมัน ใช้ประโยชน์ทั้งสกัดกั้นข้าศึก และไม่ให้เกิดประโยชน์แก่ข้าศึก

นาทีคับขัน...มีคำสั่งให้ทหารรวมพล...แล้วบอกข่าว หน่วยเหนือส่งทหารเรือมาช่วยแล้ว...ทหารดีใจส่งเสียงไชโยๆ ทหารญี่ปุ่นขวัญเสีย คิดว่าถูกกลลวง สั่งถอยกลับที่ตั้ง

จนกระทั่ง นายตี๋ (ขจัด ขลิบนุกูล) บุรุษไปรษณีย์ ว่ายน้ำข้ามอ่าวประจวบ มาขึ้นเขาล้อมหมวก ส่งข่าวจากรัฐบาลให้ยุติการสู้รบ...เวลา 14.00 น. การสู้รบจึงยุติลง...ทหารญี่ปุ่นกับทหารไทย รวมพลปรับความเข้าใจ และสำรวจความเสียหาย

ทหารญี่ปุ่นตาย 217 คน บาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมาอีกราว 200 คน ทหารไทยตาย 38 คน ตำรวจ 1 ลูกเสือ 1 ครอบครัวทหาร...อีก 2 รวมฝ่ายไทยตาย 42 คน

ประวัติวีรกรรม 8 ธ.ค.84...วันนี้ หากใครไปถึง คงจะได้ฟัง ที่อาคารพิพิธภัณฑ์ กองบิน 5 ประจวบคีรีขันธ์ และมีผลให้บางตอน...ของหนังสือ เล่าความหลังครั้งสงคราม...ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 ถูกแก้ไขให้ถูกต้อง ตามความเป็นจริง...ยิ่งขึ้น

หาอ่านกันนะครับ...อ่านแล้วจะได้บทเรียน...ขึ้นชื่อว่าสงครามการเมือง สงครามชายแดนใต้...ไม่ว่าฝ่ายชนะหรือฝ่ายแพ้...ก็ต้องสูญเสีย และการเจรจาด้วยความจริงใจ ไม่ใช่การเล่นลิ้น...เท่านั้น เป็นทางเดียวของสันติภาพ..

...

กิเลน ประลองเชิง