“ธนกร” อวย “อนุทิน” เชื่อ ผู้นำพรรคคือตัวชี้ขาดชนะเลือกตั้ง ชูนโยบายพรรคภูมิใจไทยพร้อมทุกมิติ “เราทำได้จริง ทำได้เร็ว ทำได้เลย” ลั่น กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง บริหารประเทศต่ออย่างไม่สะดุด
วันที่ 31 ธันวาคม 2568 นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการเลือกตั้ง ว่า แม้วันนี้อาจจะมีบางฝ่ายออกมาประเมินว่าการเลือกตั้งครั้งนี้กระแสจะกลายเป็นตัวชี้ขาด แต่เท่าที่ตนมองว่าเรื่องของผู้นำพรรคการเมืองคนไหนมาแรงน่าจะเป็นตัวที่ชี้ขาดมากกว่า
นายธนกร กล่าวต่อไปว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสามารถพูดได้เลยว่าท่านทุ่มเททำงานให้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ วันนี้พรรคภูมิใจไทยภายใต้การนำของท่านนายกรัฐมนตรี พยายามทำให้ประชาชนเห็นอย่างเป็นรูปธรรมมาตลอดว่านโยบายต่างๆ ที่พรรคพูดไปทุกอย่าง เรานำไปสู่การปฏิบัติและเห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง พรรคเตรียมพร้อมนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประเทศและประชาชนในทุกด้าน ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในพรรคภูมิใจไทยว่า “เราทำได้จริง ทำได้เร็ว ทำได้เลย”
...
ในส่วนคำถามถึงจุดแข็งของนโยบายของพรรคภูมิใจไทย นายธนกร ระบุว่า นโยบายของพรรคภูมิใจไทยมีจุดแข็งสำคัญคือมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน มากกว่าการตอบโต้สาดโคลนกันทางการเมือง รวมถึงการสานต่อนโยบายที่เข้าถึงประชาชนและได้รับความชื่นชอบอย่างแท้จริง จึงทำให้พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่เน้นการปฏิบัติจริงและผลลัพธ์ที่จับต้องได้เป็นรูปธรรม ดังนั้น เชื่อว่านโยบายของพรรคจะตอบโจทย์ประชาชนที่วันนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาเบื่อหน่ายความขัดแย้งทางการเมือง ที่วันๆ เอาแต่สาดโคลน เล่นเกมการเมืองเพื่อประโยชน์ตัวเองมากกว่าปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนเต็มทีแล้ว
“พรรคภูมิใจไทยไม่ใช่พรรคบ้านใหญ่ แต่เป็นพรรคของคนไทยทุกบ้าน มีทีมเศรษฐกิจที่มีความรู้มากมายอย่างท่านศุภจี (สุธรรมพันธุ์) ท่านเอกนิติ (นิติทัณฑ์ประภาศ) และแคนดิเดตนายกฯ อีกท่านที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องต่างประเทศ (นายสีหศักห์ พวงเกตุแก้ว) เราจึงเสนอนโยบายเพื่อแก้ปัญหาปากท้องประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่เพื่อใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง วันนี้เราแสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่จะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง เพื่อบริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้ประเทศต้องสะดุดจากการเปลี่ยนแกนนำรัฐบาลบ่อยครั้ง เพราะวันนี้พี่น้องประชาชนคาดหวังไว้อย่างสูงกับการทำงานของพรรคภูมิใจไทย ดังนั้น เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทุกนโยบายต้องพร้อมในทุกด้าน และต้องยกระดับเพิ่มขึ้นด้วย ตามสโลแกนที่ว่าพูดแล้วทำพลัส”