ครอบครัว “จินนี่ ยศสุดา” ส่งทีมกฎหมายพรรคไทยสร้างไทยแจ้งความ “โดม ปกรณ์ ลัม” คอมเมนต์คุกคาม “คุณหญิงสุดารัตน์” ลั่น ไม่ควรเกิดกับใครทั้งสิ้น ดำเนินคดีเพื่อการสร้างบรรทัดฐานให้สังคมไทย


เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. วันที่ 30 ธันวาคม 2568 นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย นายศุชัยวุธ ชาวสวนกล้วย หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของพรรคไทยสร้างไทยและทนายความ, นายกิตติ นิลผาย ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจ จากนางสาวยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ หรือ จินนี่ ลูกสาวของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เข้าแจ้งความกับ โดม ปกรณ์ ลัม ศิลปินชื่อดัง กรณีคอมเมนต์ด้วยถ้อยคำไม่เหมาะสมในภาพของนางสาวยศสุดา

นายศุชัยวุธ เผยว่า น้องจินนี่และคนในครอบครัว รวมถึงสมาชิกพรรค มองว่าการกระทำของโดม ปกรณ์ ลัม ไม่ถูกต้อง และมีความผิดตามกฎหมาย วันนี้จึงเข้ามาแจ้งความกับตำรวจเพื่อปกป้องสิทธิของสตรี ซึ่งสิ่งที่โดม ปกรณ์ ลัม ทำนั้นเข้าข่ายความผิดของพระราชบัญญัติคุกคามทางเพศ ที่ประกาศใช้วันนี้เป็นวันแรก ซึ่งโดม ปกรณ์ ลัม น่าจะเป็นคนแรกที่มีความผิดใน พ.ร.บ.นี้

ทั้งนี้ ฝ่ายกฎหมายของพรรคไทยสร้างไทย มองว่า โดม ปกรณ์ ลัม เป็นคนที่มีชื่อเสียง ต้องตระหนักในเรื่องนี้มากกว่าคนอื่นๆ เราต้องแจ้งความเพื่อปกป้องคุณจินนี่ และไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนใดก็ตาม ก่อนจะเปิดเผยต่อไปว่า โดม ปกรณ์ ลัม ได้ออกมายอมรับแล้วว่าเป็นคอมเมนต์จริง และเจ้าตัวมีความพยายามติดต่อมาเพื่อที่จะพูดคุยและขอโทษคุณจินนี่ เท่าที่ทราบมีการติดต่อมาขอโทษ แสดงออกถึงความจริงใจ ไม่ใช่จำนนต่อหลักฐานแล้วถึงมาขอโทษ อีกทั้งมีชื่อเสียงด้วยก็ต้องตระหนักมากกว่าคนอื่นๆ ทั่วไป

...

ขณะเดียวกัน ทางพรรคไทยสร้างไทยมองว่า โดม ปกรณ์ ลัม ควรทำอะไรที่มันชัดเจนกว่านี้ในการแสดงออกถึงความสำนึกผิดและจริงใจ ไม่ใช่จำนนต่อหลักฐานถึงออกมายอมรับตามสภาพ ที่ทำการพรรคไทยสร้างไทยตั้งอยู่ที่ซอยลาดปลาเค้า 46 มันก็ไม่ได้หายาก ถ้ามีความจริงใจ ก็อยากให้เข้ามาขอโทษ

ส่วนที่คุณหญิงสุดารัตน์ ออกมาโพสต์ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำไปเพื่อปกป้องลูก ที่ผ่านมาชายหญิงไม่เคยเท่าเทียมกันมานานแล้ว การแจ้งความในครั้งนี้จะเป็นตัวอย่างให้สังคมได้จดจำว่าเพศหญิงคือเพศแม่ ฝ่ายชายจะประสบความสำเร็จได้ก็ต้องมีฝ่ายหญิงเป็นช้างเท้าหลัง เชื่อว่าทุกวันนี้ยังมีผู้หญิงถูกคุกคามอีกเป็นจำนวนมาก และทางพรรคไทยสร้างไทยยืนยันไม่ได้ทำเรื่องเพื่อน้องจินนี่คนเดียว แต่ทำเพื่อผู้หญิงทุกคน เมื่อถามว่าจะมีการยอมความหรือไม่ ทางหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของพรรคไทยสร้างไทย บอกว่า เรื่องนี้จะมีการพิจารณาอีกครั้ง แต่ต้องดูความจริงใจของโดม ปกรณ์ ลัม ก่อน

ทางด้าน นายปริเยศ บอกว่า เรื่องนี้สร้างผลกระทบต่อน้องจินนี่จริง แต่เจ้าตัวเป็นคนที่แข็งแกร่ง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของการเมือง และเรื่องแบบนี้ไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมอะไรได้ เรื่องนี้จะไม่ถูกหยิบยกมาใช้ในทางการเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในช่วงเวลาที่ทีมกฎหมายของพรรคไทยสร้างไทย กำลังแจ้งความดำเนินคดีกับโดม ปกรณ์ ลัม ล่าสุด คุณหญิงสุดารัตน์ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกครั้ง ว่า “การตัดสินใจแจ้งความในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างครอบครัว และสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย โดยเราพิจารณาอย่างมีวุฒิภาวะร่วมกันว่า เรื่องการคุกคามเช่นนี้ไม่ควรที่จะเกิดกับใครทั้งสิ้น ไม่ว่าเพศใด ไทยสร้างไทย ในฐานะพรรคการเมือง ต้องทำหน้าที่ปกป้องการคุกคาม และการย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด หรือเกิดขึ้นกับใคร ดังนั้นการตัดสินใจดำเนินคดีในครั้งนี้ จึงเป็นไปเพื่อการสร้างบรรทัดฐานให้กับสังคมไทย ว่าเราควรจะอยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้อง โดยให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นใคร มีสถานะใด หรือเพศสภาพใด ก็ไม่ควรได้รับการดูหมิ่นเหยียดหยาม หรือคุกคาม จากใครทั้งสิ้น”

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ฝ่ายกฎหมายของพรรคไทยสร้างไทย ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า วันนี้ทางทีมงานได้ดำเนินคดีกับโดม ปกรณ์ ลัม ในฐานความผิดคุกคามทางเพศต่อผู้อื่นลงในระบบคอมพิวเตอร์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 284/1 วรรค 3 เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนเตรียมเชิญทั้งโดม ปกรณ์ ลัม และฝั่งของพรรคไทยสร้างไทย มาให้ปากคำและพูดคุยกันในช่วงหลังปีใหม่.