“โอ๊ค-อิ๊งค์” พร้อมครอบครัวเข้าเยี่ยม “ทักษิณ” ครั้งสุดท้ายของปี 2568 ทนายแจงสถานะ ยังเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดชั้นกลาง รอลุ้น เม.ย.69 พร้อมตั้งคำถามถึงอัยการสูงสุด

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 29 ธ.ค. 2568 นายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส.ณัฐฐิญา ปวงคำ ภรรยา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี เดินทางเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร โดยเดินทางมาพร้อมกับนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวนายทักษิณ

ต่อมาเมื่อเวลา 10.50 น. หลังครอบครัวชินวัตร เสร็จสิ้นการเข้าเยี่ยม นายทักษิณ ภายในเรือนจำฯ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้การพูดคุยเป็นไปด้วยดี คุณพ่อแฮปปี้ดี สนุกสนาน แต่อาจมีปัญหาเรื่องสุขภาพเล็กน้อย แต่โดยรวมคุณพ่อดูสดชื่นต้อนรับปีใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่านายทักษิณ ได้มีกลยุทธ์แนะนำมาทางพรรคเพื่อไทย บ้างหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ร้องโอ้โห และกล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า คุณพ่อก็ได้มีการให้กำลังใจและบอกว่าอย่างน้อย เบอร์ 9 จำง่าย หากมีคนมาเลือก ตัวเลขหลักเดียวก็ง่ายดี แต่ส่วนใหญ่คุณพ่อเล่าให้ฟังในสมัยของคุณพ่อเองว่า เขาจับได้เบอร์อะไร อย่างไร รวมถึงเล่าไปถึงสมัยแรก ๆ ที่เคยจับได้เบอร์ 7 ทำนองนี้ คุณพ่อจะชอบเล่าความหลังให้พวกเราฟังมากกว่า และคุณพ่อยังบอกด้วยว่า “อายุเยอะแล้ว คนแก่ก็จะมีความหลังเยอะหน่อย”

...


ส่วนในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะมาเป็นอันดับ 1 ในการจัดทัพรัฐบาลหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ยิ้มกว้างและกล่าวว่า เราต้องให้กำลังใจกันไป

ด้านนายวิญญัติ กล่าวว่า ปัจจุบันนายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี ยังคงสถานะผู้ต้องขังเด็ดขาดชั้นกลาง ยังไม่ได้ปรับเลื่อนชั้นเป็นชั้นดี ส่วนกรณีที่ว่านายทักษิณ จะได้รับเสนอชื่อปรับเลื่อนชั้นจากคณะกรรมการระดับเรือนจำกลางคลองเปรม ไปยังคณะกรรมการส่วนกลาง ระดับกรมราชทัณฑ์ จากชั้นกลางเป็นชั้นดี ในช่วงประมาณเดือน เม.ย.69 ซึ่งหมายความว่า แม้เดือน มี.ค.69 นายทักษิณ จะครบกำหนดคุมขัง 6 เดือน ก็จะได้รับการพิจารณาโครงการพักการลงโทษกรณีทั่วไป อาจไม่ทันได้พักโทษในเดือน มี.ค.69 นั้น ตนเข้าใจในกระบวนการของราชทัณฑ์ และนายทักษิณเองก็เข้าใจ แม้จะต้องอยู่ไปอีกกี่เดือนก็ตาม เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการพักโทษ สิทธิประโยชน์ของผู้ต้องขัง ท่านก็พร้อมปฏิบัติตามระเบียบของราชทัณฑ์ เราไม่มีวันไปกดดันเจ้าหน้าที่ หรือไปใช้อำนาจใดที่ทำให้เกิดเรื่องที่ผิดกฎหมาย ดังนั้น ห้วงเวลาของการพักโทษของนายทักษิณ จะมีสิทธิพิจารณาเวลาใดหลังจากนี้ เราก็ยินดี แม้ 6 เดือน หรือ 8 เดือน เราก็ต้องรอการปรับเลื่อนชั้นให้เรียบร้อยก่อน

ส่วนการอุทธรณ์สู้คดีมาตรา 112 ของนายทักษิณ หลังจากที่อัยการสูงสุดคนปัจจุบันมีคำสั่งให้อัยการอุทธรณ์คดี โดยก่อนหน้านี้คณะกรรมการพิจารณาคดี 112 ของอัยการ มีการพิจารณาและมีมติ 8:2 เสียง เห็นควรไม่อุทธรณ์คดี ตนทราบว่าการอุทธรณ์ยังอยู่ระหว่างการจัดส่งหมายอุทธรณ์ แต่เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม และไปยื่นหนังสือบอกกล่าวต่ออัยการสูงสุดว่าอำนาจที่ท่านไปฝ่าฝืนมติของคณะกรรมการที่ท่านตั้งขึ้น ไม่ว่าจะมติ 7:2 หรือมติ 8:2 ก็ตาม ท่านในฐานะที่นั่งเป็นประธาน ท่านไม่สามารถใช้อำนาจของตัวเองไปหักมติหรือฝ่าฝืนมติคณะทำงานได้ เพราะคณะทำงานถือว่าเมื่อตั้งขึ้นแล้วก็จะมีอำนาจเด็ดขาด ไม่ใช่กระบวนการตาม ป.วิอาญา มาตรา 20 ที่อัยการสูงสุดจะใช้อำนาจพิจารณาสั่งคดีนอกราชอาณาจักร ซึ่งเรามองว่าเป็นคนละขั้นตอน เรื่องนี้ถ้าท่านจะใช้อำนาจตรงนี้ ท่านก็ไม่ควรตั้งคณะทำงานขึ้นมาแต่แรก แต่เมื่อมีคณะทำงานและมีมติออกมาแล้ว ก็ต้องเคารพมติ ซึ่งกระบวนการนี้เราเห็นว่ามันไม่ชอบและไม่ถูกต้องแต่แรก


ทั้งนี้ นายวิญญัติ ยังได้ตั้งคำถามว่ากำลังทำตามที่ใครขอหรือไม่ หลังมีข้อมูลว่าอัยการสูงสุดได้ไปที่ไหน เพื่อพบกับใคร ซึ่งวันที่ 26 ธ.ค. ก็ได้เตือนเป็นหนังสือไปยังอัยการสูงสุด เพื่อขอให้ท่านทบทวนใหม่ และหลังจากนั้น 1-2 วัน ก็มีข่าวว่าบุตรสาวไปลงสมัครกับพรรคภูมิใจไทย จึงขอให้ท่านได้อธิบายด้วย แต่ในทางการเมือง ก็เป็นสิทธิของลูกสาวท่านที่จะลงสมัครกับพรรคใดก็ตาม อย่างไรก็ดี ต้องรอหนังสือตอบกลับจากทางอัยการสูงสุดทุกรายการที่ขอคัดถ่ายสำเนาไป เพื่อจะได้เอาเอกสารเกี่ยวกับคดี รายละเอียดมติ ข้อพิจารณาสั่งการของท่านไปตรวจดูว่าเหตุใดท่านจึงไม่เคารพ หรือไม่เอาตามมติคณะทำงาน จนเป็นเหตุมีคำสั่งให้อุทธรณ์ 

ส่วนเรื่องการยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายของนายทักษิณ ครั้งล่าสุด มีผลฎีกาแจ้งกลับมาหรือยังนั้น ตนขอเรียนว่า ทราบว่ายังอยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาของสำนักงานราชเลขาฯ ซึ่งเราไม่อาจก้าวล่วงได้ เป็นเรื่องของพระราชอำนาจ ซึ่งในฐานะปวงชน ราษฎรไทย เราก็ต้องรอไปก่อน

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในการเปิดให้บริการเยี่ยมญาติของเรือนจำกลางคลองเปรม จะปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.68 และจะเปิดให้เยี่ยมญาติอีกครั้งในวันที่ 5 ม.ค.69 วันนี้จึงถือเป็นวันสุดท้ายของปี 2568 ที่ครอบครัวชินวัตรจะได้เข้าเยี่ยมญาตินายทักษิณภายในเรือนจำฯ