เปิดประวัติ “สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย” หรือ “เฮียจิง” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทยด้านเศรษฐกิจ ประสบการณ์รอบด้าน เป็นทั้งนักธุรกิจแถวหน้าและผู้ร่วมก่อตั้ง “ขอนแก่นโมเดล”
วันที่ 28 ธันวาคม 2568 พรรคไทยสร้างไทย เปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการแล้ว 3 คน คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯ ลำดับที่ 1 พล.ท. ภราดร พัฒนถาบุตร แคนดิเดตนายกฯ ลำดับที่ 2 และนายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย แคนดิเดตนายกฯ ลำดับที่ 3 เพื่อสู้ศึกเลือกตั้ง 2569
ประวัติ “สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย”
สำหรับนายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย มีชื่อเล่นว่า จิง เป็นบุตรของ นายชอ และนางอุษา ทวีแสงสกุลไทย ผู้ก่อตั้งอาณาจักร ช ทวี เรียนจบการศึกษา ด้านวิศวกรรม อนุปริญญา วิศวกรรมยานยนต์ จาก Yomiuri Rikosem College ประเทศญี่ปุ่น ด้านบริหารธุรกิจ ปริญญาตรีจาก Sanno University ประเทศญี่ปุ่น และปริญญาโทจาก Southeastern University ด้านเศรษฐศาสตร์ ปริญญาโทจาก Fordham University ประเทศสหรัฐอเมริกา และดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิศวกรรมเครื่องกล จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (ปี 2560)
...
นายสุรเดชถือเป็นนักธุรกิจที่มีความโดดเด่นในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในอุตสาหกรรมหนัก อีกทั้งยังเป็น CEO บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO: นำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ และผลักดันธุรกิจไทยสู่ตลาดระดับสากล (NASDAQ) และยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง “ขอนแก่นโมเดล” ประธานกรรมการ บริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง (เคเคทีที) จำกัด ซึ่งเป็นต้นแบบการรวมกลุ่มภาคเอกชนเพื่อพัฒนาเมือง (เช่น โครงการรถไฟฟ้ารางเบา) จนได้รับการยอมรับในระดับโลก และยังมีบทบาททางวิชาการที่สำคัญ คือ เป็นอาจารย์พิเศษด้านนโยบายสาธารณะและการบริหารรัฐกิจที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นมานานกว่า 10 ปี
เส้นทางสู่การเมือง “สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย”
กระทั่งในวันที่ 23 ธันวาคม 2568 คุณหญิงสุดารัตน์ ได้เปิดตัวนายสุรเดช อย่างเป็นทางการ ในตำแหน่งแม่ทัพทางเศรษฐกิจของพรรคไทยสร้างไทย โดยมีภารกิจหลัก คือกำกับดูแลนโยบายเศรษฐกิจและความยั่งยืน โดยชูธงการแก้ปัญหาปากท้องด้วยแนวคิดใหม่ “ไม่ต้องพึ่งพางบประมาณรัฐเพียงอย่างเดียว” แต่ใช้ความร่วมมือระหว่างท้องถิ่น ภาคเอกชน และส่วนกลาง เพื่อไปสู่เป้าหมาย “Restart Thailand” โดยให้ นายสุรเดชรับผิดชอบการวางโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่เพื่อรับมือกับ “5 คลื่นยักษ์” ที่กำลังถล่มไทยโดยเน้นลดความเหลื่อมล้ำ ปฏิรูประบบราชการปราบคอร์รัปชัน และยกเครื่องกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากิน เศรษฐกิจยั่งยืนใช้โอกาสจากตลาดโลกมาสร้างพลังให้เศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่จริง
คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำหนักแน่นว่า การได้นายสุรเดชมาเสริมทัพตอกย้ำคำมั่นสัญญาของพรรคที่ว่า “ไม่โกง มีประสบการณ์ ทำงานสำเร็จ” และผลักดันนโยบายเศรษฐกิจที่จับต้องได้จริงสำหรับสู้ศึกเลือกตั้งในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 นี้
