พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี "พีระพันธุ์-อรรถวิชช์-นราพัฒน์" หัวหน้าพรรค และรองหัวหน้าพรรค ส่องผลงานการทำงานที่ผ่านมา โดดเด่นคนละด้าน
พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน ประกอบด้วย
- พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
- อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี
- นราพัฒน์ แก้วทอง
สำหรับ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค แม่ทัพใหญ่แห่ง “รวมไทยสร้างชาติ” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ลำดับ 1 นอกจากจะมีความรู้ความสามารถแล้ว ผลงานด้านกฎหมายและการปราบปรามทุจริตที่ผ่านมา ก็มีอยู่มากมาย ทั้งการผลักดัน พ.ร.บ.ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม (พ.ศ. 2540), ตรวจสอบคดีทุจริตปุ๋ยอินทรีย์ปลอม (ศาลพิพากษาจำคุกผู้เกี่ยวข้อง), ตรวจสอบการจัดซื้ออาคาร SME Bank ช่วยรัฐประหยัดกว่า 400 ล้านบาท, ตรวจสอบคดี “ค่าโง่ทางด่วน 6,200 ล้านบาท” จนชนะคดี, รื้อฟื้นคดี “โฮปเวลล์” ปกป้องเงินภาษีประชาชนกว่า 30,000 ล้านบาท, ยุติข้อพิพาท “คดีเหมืองทองอัครา” 25,000 ล้านบาท เป็นต้น
...
ด้าน นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อันดับ 2 นักบริหารรุ่นใหม่ที่มีรากฐานทั้ง “นิติศาสตร์-เศรษฐศาสตร์” จากสถาบันระดับโลก ผลงานที่จับต้องได้จริงผ่านการร่างกฎหมายหลากหลายฉบับ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้คนไทยต้องไม่อยู่ภายใต้นายทุน
ผลงานโดดเด่นที่ผ่านมา เป็นผู้ร่างกฎหมาย “พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 2)” (สุรารวมไทย) หนุนเกษตรแปรรูป ทำสุราสีได้ ยกเลิกการผูกขาดที่เกิดขึ้นมายาวนานได้สำเร็จ, ริเริ่มเสนอกฎหมาย “ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต” (ปฏิรูปเครดิตบูโร) ภาคประชาชน เพิ่มโอกาสเข้าถึงสินเชื่อที่เป็นธรรม แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ, เป็นผู้ร่างกฎหมาย “ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์” (เสรีโซลาร์) ยกเลิกการขออนุญาตเพื่อผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ และร่วมพัฒนาอุปกรณ์โซลาร์ฝีมือคนไทยในราคาถูก, เป็นผู้ร่างกฎหมาย “ร่าง พ.ร.บ.จัดการกากอุตสาหกรรม” กำจัดขยะพิษครบวงจรฉบับแรกของไทย และเป็นผู้ร่างกฎหมาย “ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน” วางระบบอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน ให้เกษตรกรได้ส่วนแบ่งจากผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์ม
ขณะที่ นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อันดับ 3 ผู้ที่เชื่อมั่นว่าการเมืองยุคใหม่ ต้องใช้ “นวัตกรรม” และ “ความคิดสร้างสรรค์” เพื่อเปลี่ยนโลกใบเดิมให้ก้าวทันโลกใบใหม่ ด้วยมุมมองนโยบายการพัฒนาประเทศ “เศรษฐกิจฐานรากต้องเข้มแข็ง” สร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้แก่พี่น้องประชาชน
ตัวอย่างผลงานที่โดดเด่น ผลักดันโครงการ “ปุ๋ยสั่งตัด” ใช้ปุ๋ยได้ตรงกับสภาพดิน เร่งนำโพแทสเซียมมาใช้เพื่อทำให้ปุ๋ยราคาถูกลงลดต้นทุนเกษตรกร, ผลักดันฝายขั้นบันไดลุ่มน้ำยมเพื่อชะลอน้ำ, เสนอแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ด้วยแก้มลิง สร้างพื้นที่รับน้ำทุกจังหวัด, ใช้ระบบโซลาร์เซลล์ในการกระจายน้ำ, ปรับเปลี่ยนเกษตรดั้งเดิมสู่ “เกษตรเชิงพาณิชย์”, สร้าง Young Smart Farmer ทำ “เกษตรมูลค่าสูง” (Agri-Tech) เร่งรัด ติดตาม การอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัย ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) ตามนโยบาย (คทช.)