เปิดนโยบายพรรคประชาชาติ ดัน ยุทธศาสตร์ “ประชาชาติเพื่อสันติภาพและคุณภาพชีวิต 0-10-100” ปราบโกงให้เป็น 0 เศรษฐกิจฐานรากแข็งแรง GDP โต 10% และนิติรัฐและนิติธรรม สิทธิเสรีภาพ เสมอภาคและเป็นธรรม 100%
วันที่ 27 ธันวาคม 2568 ปี่กลองเลือกตั้งดังทั่วประเทศแล้ว พามาดูรายละเอียดนโยบายพรรคการเมือง ก่อนให้ประชาชนตัดสินใจลงคะแนนใช้สิทธิเลือกตั้งที่จะถึงในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 โดยในส่วนของพรรคประชาชาติ ได้เปิดนโยบายและยุทธศาสตร์ “ประชาชาติเพื่อสันติภาพและคุณภาพชีวิต 0-10-100”
0% โกง หรือการทุจริต – งบถึงมือประชาชน
- ปราบโกงให้เป็น 0 : บังคับใช้กฎหมาย ปราบปรามการทุจริตทุกรูปแบบ
- ปราบปรามนักค้ายาเสพติดให้เป็น 0 : ผู้จำหน่ายผู้ค้ายาเสพติดต้องปราบปราม ยึดทรัพย์และไม่ให้มีที่ยืนในพื้นที่ จชต นำกัญชาเป็นยาเสพติดใช้เฉพาะการแพทย์หรือการศึกษาวิจัยเพื่อการแพทย์ และให้พืชกระท่อมเป็นยาเสพติด ต้องมีการอนุญาตในการใช้
- ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้เป็น 0% : พัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ได้มาตรฐานเดียวกัน ทุกคนเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม ส่งเสริมการจัดสรรทรัพยากรอย่างเป็นธรรม เพื่อให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ
- ขจัดอัตราการออกกลางคันให้เป็น 0% (Zero Dropout) : กำหนดแนวนโยบายและแนวปฏิบัติที่มุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชนทุกคนอยู่ในระบบการศึกษาอย่างต่อเนื่องจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรืออย่างน้อยจนมีทักษะชีวิตและทักษะอาชีพที่พึ่งพาตนเองได้ โดยถือว่า “เด็กทุกคนมีคุณค่า รัฐ ชุมชน และสังคมต้องไม่ปล่อยให้ใครหลุดออกจากระบบ”
...
10% โต (GPP) – เศรษฐกิจฐานรากแข็งแรง
- “การลงทุนขนาดใหญ่เพื่อพลิกโฉมสามจังหวัดชายแดน” โดยสร้างเขตพัฒนาเต็มพื้นที่สามจังหวัดและสี่อำเภอในจังหวัดสงขลา เนื่องจากมีผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบมา 20 กว่าปี มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้ การยกเว้นอากรนำเข้าและส่งออกในรูปแบบ Freeport การยกเว้นภาษีขายทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และภาษีท้องถิ่นหรือภาษีรูปแบบเฉพาะในรูปแบบ Duty Free และผนวกการส่งเสริมการลงทุนตามรูปแบบของ BOI เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่มีพลังในอนาคต อันจะสร้างงาน สร้างอาชีพ และยกระดับพื้นที่ให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่มีความน่าสนใจและสามารถแข่งขันได้ในระดับภูมิภาคต่อไป
- ผลักดัน “นิคมอุตสาหกรรมฮาลาล” ให้สำเร็จเป็นรูปธรรม อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ
- ส่งเสริมและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่นให้มีศักยภาพและมีความโดดเด่น เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ และเสริมความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของชุมชน ด้วยต้นทุนทางวัฒนธรรม (Soft Power) เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นกลไกหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากที่มีความยั่งยืน จัดทำแผนที่การท่องเที่ยวเชิงเชื่อมโยงที่บูรณาการแหล่งท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก และผู้ประกอบการเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนภายในชุมชน
- ยกระดับและสนับสนุนธุรกิจร้านอาหารไทยหรือร้าน “ต้มยำ” ชายแดนใต้และประเทศเพื่อนบ้านที่สร้างรายได้ให้กับพื้นที่พร้อมกับยกระดับแรงงานท้องถิ่นและเร่งจัดหาแหล่งงานในประเทศเพื่อนบ้าน
- จัดตั้ง “กองทุนหมู่บ้านแห่งความสำเร็จ” ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่และสถานการณ์ความขัดแย้ง เพื่อเป็นเครื่องมือสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืนในระดับชุมชน โดยมีเป้าหมายสำคัญในการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินในระดับฐานราก ให้ชุมชนมีแหล่งเงินทุนหมุนเวียนของตนเอง ลดปัญหาการขาดแคลนเงินทุน กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนและการสร้างอาชีพ สร้างงาน แหล่งเงินทุนหมุนเวียน และดำเนินกิจการที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน
- ล้างหนี้ กยศ. ทั้งหมด ด้วยระบบแบ่งภาระอย่างเป็นธรรม ผู้กู้ยืมชำระเงินต้นเพียง 10% ของยอดหนี้ทั้งหมด ส่วนที่เหลือ 90% ให้ปลดหนี้ การปฏิบัติงานดังกล่าวถือเป็นการชดใช้หนี้ต่อรัฐในรูปแบบแรงงานและบริการสาธารณะ โดยรัฐต้องรับรองสถานะและสิทธิของผู้เข้าร่วมอย่างชัดเจน มุ่งใช้กำลังคนเพื่อภารกิจเร่งด่วนของประเทศและชุมชน ผู้เข้าร่วมสามารถเลือกปฏิบัติงานในภารกิจที่สอดคล้องกับความจำเป็นของรัฐและชุมชน อาทิ การป้องกัน บำบัด และฟื้นฟูผู้เสพและผู้ใช้ยาเสพติดในระดับหมู่บ้านและชุมชน งานด้านสาธารณสุขชุมชนและการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน งานพัฒนาท้องถิ่นและชุมชน งานด้านความมั่นคงของประเทศ งานด้านสาธารณสุข งานด้านการศึกษา งานจัดการและพัฒนาฐานข้อมูลดิจิทัลภาครัฐ โดยรัฐจัดค่าตอบแทนและคุ้มครองผู้ปฏิบัติงาน พร้อมให้ความคุ้มครองด้านสวัสดิการขั้นพื้นฐานตลอดระยะเวลาการปฏิบัติงาน
- แก้ไขกฎหมายสหกรณ์ฯ โดยให้มี “สหกรณ์ปลอดดอกเบี้ย” เป็นประเภทหนึ่งของสหกรณ์ได้จดทะเบียนตามกฎหมาย ซึ่งในปัจจุบันมีเฉพาะสหกรณ์ที่มีระบบดอกเบี้ย ส่งผลให้ขัดหรือแย้งกับหลักการของศาสนาอิสลามซึ่งห้ามมีดอกเบี้ย ดังนั้นจึงผลักดันให้แก้กฎหมายมี “สหกรณ์ปลอดดอกเบี้ย”
- ประกอบพิธีฮัจญ์ราคาถูก โดยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก และค่าบริการนำแสวงบุญ โครงการบัญชีเงินฝากอัลฮัจญ์ สถาบันการเงินรัฐสนับสนุน Top up สูงกว่า (ผลตอบแทนสูงกว่า) และแจกรางวัลมากกว่า เช่น แจกทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละ 2 รางวัล
- สนับสนุนให้มีการให้สวัสดิการและค่าตอบแทนแก่บุคลากรทางศาสนาของทุกศาสนา กรณีศาสนาพุทธ ได้แก่ พระภิกษุสงฆ์ บุคลากรและองค์กรในพระพุทธศาสนา กรณีศาสนาอิสลาม ได้แก่ อิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น กรรมการอิสลามมัสยิด และกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ตลอดจนบุคลากรของศาสนาอื่นๆ รวมทั้งส่งเสริมให้มีกิจกรรมข้ามวัฒนธรรมระหว่างศาสนิกชนเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ระหว่างกัน
100% นิติรัฐและนิติธรรม – สิทธิเสรีภาพ เสมอภาคและเป็นธรรม
- การศึกษามีคุณภาพ เท่าเทียม ทั่วประเทศ ต้องมี “การศึกษาภาคบังคับ” ถึงมัธยมปลาย (ม.6) หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) 100% สำหรับคนไทยทุกคนที่มีศักยภาพและประสงค์จะศึกษา ต้องเป็นการศึกษาฟรีถึงอุดมศึกษา และมุ่งสร้างระบบการศึกษาที่รับประกันว่า เด็กและเยาวชนทุกคน ไม่ว่าจะเกิดที่ใด มีฐานะหรืออัตลักษณ์ใด จะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพมาตรฐานเดียวกัน พร้อมให้การสนับสนุนเพิ่มเติมตามความจำเป็นของแต่ละพื้นที่และแต่ละบุคคล
- ชุมชนเป็นศูนย์กลางขจัดยาเสพติด 100% : ยึดแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยให้ “ชุมชน” เป็นแกนหลักในการป้องกัน แก้ไข และฟื้นฟูอย่างรอบด้าน แทนการพึ่งพาเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายจากรัฐเพียงอย่างเดียว โดยคืนบทบาทให้ชุมชนเป็นเจ้าของปัญหาและเจ้าของคำตอบ รัฐทำหน้าที่หนุนเสริม เพื่อให้การแก้ปัญหายาเสพติดเกิดผลจริงและยั่งยืนในระยะยาว
- ความขัดแย้งประชาชนกับรัฐเรื่องที่ดิน ป่าไม้ ต้องได้รับการ “พิสูจน์สิทธิ 100%” ที่หลักเกณฑ์การพิสูจน์มีความเป็นธรรม ใช้ข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชุมชนได้ ดำเนินการให้เป็นรูปธรรม ภายในกรอบระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี และผลักดันให้มีกฎหมายนิรโทษกรรมแก่ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและป่าไม้ ที่เกิดความผิดพลาด ประกาศป่าหรือที่สงวนหวงห้ามครั้งแรกทับที่ประชาชน และผิดพลาดจากการกระทำของรัฐอื่น อาทิ ผู้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่า (ยุค คสช.) เป็นราษฎรที่ยากไร้และไร้ที่ทำกิน ได้ถูกดำเนินคดี
ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
แก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่บางแห่งของจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี “กระบวนการสันติภาพเป็นวาระแห่งชาติ” เป็นกลไกขับเคลื่อนการเมือง รวมทั้งนิรโทษกรรมเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่สันติภาพและสันติสุข มี “ศูนย์เฝ้าระวังภัย” เป็นกลไกคุ้มครองชีวิตประชาชน และการพัฒนาให้สอดคล้องกับบริบท คือ
- กำหนดให้การสร้างสันติภาพเป็นวาระแห่งชาติ โดยใช้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นคณะกรรมการถาวรระดับชาติ พิจารณาทบทวนหรือยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และกฎอัยการศึก เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่การใช้กฎหมายปกติและการบริหารงานโดยพลเรือน
- การแก้ไข พ.ร.บ. ศอ.บต. ให้มีกระบวนการสันติภาพและความคุ้มกันทางกฎหมาย แก่คณะพูดคุยและผู้เข้าร่วมกระบวนการสันติภาพทุกฝ่าย ไม่ให้ถูกฟ้องร้องในข้อหายุยงปลุกปั่น นำมาตรการถอนฟ้องหรือพักโทษมาใช้กับผู้ที่พร้อมเข้าสู่กระบวนการสันติภาพ พร้อมตั้งกองทุนเยียวยาที่เป็นธรรมและครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
- นิรโทษกรรมทางอาญา แพ่ง และปกครอง แก่ผู้กระทำความผิดที่มีมูลเหตุจากการแสดงออกทางการเมือง อุดมการณ์ทางความคิด หรือการชุมนุมที่มีความเกี่ยวเนื่องกับวัฒนธรรม ภาษา อัตลักษณ์ หรือชุมนุมทางความคิดและการเมือง
- มี “ศูนย์ความช่วยเหลือภัยพิบัติ” ทั้งภัยจากมนุษย์สร้างขึ้นและภัยจากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในการช่วยเหลือ การเยียวยา และการฟื้นฟู รวดเร็ว เป็นธรรม และมีเอกภาพในการช่วยเหลือ
นโยบายประชาชาติมีเจตจำนงที่มีคุณธรรม ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และการเมืองที่มุ่งสร้างสันติภาพและสันติสุข สามารถเกิดขึ้นได้จริง