“ไผ่ ลิกค์” แชมป์เก่ามั่นใจปักธงกำแพงเพชรได้ ไม่สนคนโจมตีกล้าธรรม ส่วน ปชน. ขอชนแชมป์ ชูนโยบายมีส้มไม่มีเทา 

วันที่ 27 ธันวาคม 68 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกำแพงเพชร เปิดรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกำแพงเพชร วันแรก บรรยากาศตั้งแต่เช้าสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบ่งเขตการเลือกตั้ง และกองเชียร์ ได้เดินทางมากันแต่เช้า ทำให้ภาพบรรยากาศพื้นที่โดยรอบเป็นไปอย่างคึกคัก ซึ่งจังหวัดกำแพงเพชร มี สส.จำนวน 4 เขต แกนนำแต่ละพรรค ขนผู้สมัคร กองเชียร์ มาด้วยความมั่นใจ

...

นายวราเทพ รัตนากร แกนนำเพื่อไทย จ.กำแพงเพชร เปิดเผยว่า เราส่งผู้สมัครครบทั้ง 4 เขต มีความมั่นใจเพราะเป็นพรรคที่เคยทำงานร่วมกันมาก่อน เรากลับมาเพื่อไทยครั้งนี้ เพื่อจะมาร่วมทำงานกับพรรคที่เคยทำงานร่วมกัน มั่นใจว่าพี่น้องประชาชนจะให้การสนับสนุน ซึ่งผู้สมัครทั้ง 4 เขต จะลงพื้นที่ใกล้ชิดประชาชนให้มากขึ้น เรามีผู้สมัครใหม่ทุกเขต และเป็นทุกช่วงวัยที่สามารถทำงานร่วมกันได้ และเป็นที่รู้จักของพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว ส่วนการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ นายวราเทพเชื่อว่า ไม่ว่าเลือกตั้งครั้งไหนก็ตามกระแสดีหรือไม่ดีเราก็ต้องทำการบ้านด้วยการลงพบปะพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด ส่วนคำว่าทายาททางการเมืองที่ถูกจับตามองอยู่ในขณะนี้ ตนว่าไม่ใช่เรื่องมองไปในแง่ลบ ต้องมองว่าเป็นความพร้อมความตั้งใจ และความเชื่อมั่นที่จะมาอาสารับใช้พี่น้องประชาชน


ขณะที่ นายไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรคกล้าธรรม ระบุว่า ทางเรามีผู้สมัครหน้าเดิมอยู่ครบทุกเขต ก็ค่อนข้างมั่นใจ ในการสู้ศึกครั้งนี้ พวกเราทั้งหมดทำงานกันมาอย่างต่อเนื่อง มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เราสามารถที่จะกลับมาได้ ส่วนการโจมตีต่างๆ ที่ออกมา เรามองว่าเป็นเพียงวาทกรรมทางการเมือง เชื่อว่าชาวบ้านรู้อยู่แล้ว ใครทำงาน และการที่พูดออกมาแบบนี้ อาจทำให้หลังการเลือกตั้งจะจัดตั้งรัฐบาลได้ลำบาก

ขณะที่คู่แข่งหน้าใหม่ที่มาลงชิงเก้าอี้อย่าง ปราย ปริญวัฒน์ ทวีกิจศิรพงษ์ ผู้สมัคร สส.กำแพงเพชร เขต 1  พรรคประชาชน ที่ขอชนแชมป์เก่าอย่าง นายไผ่ ลิกค์ แม้จะเป็นหน้าใหม่ ขอตั้งธงในการเอาชนะ เพราะสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงมาถึงแล้ว ทุกๆ คนอยากเปลี่ยนแปลง ทุกๆ คนอยากลองของใหม่ ก็เป็นโอกาสที่ดีที่มาเสนอตัวรับใช้พี่น้องประชาชน เปิดตัวมาแล้วระยะหนึ่งประชาชนให้การตอบรับดี จึงมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนสิ่งที่อยากเปลี่ยน คือ ไทยไม่เทา ไทยเท่ากัน ไทยทันโลก คืออยากให้ปราศจากการคอร์รัปชัน ส่วนกับคู่แข่งวันนี้ได้เจอกันแล้วไม่มีปัญหาให้เป็นไปตามเกม ถ้าเล่นไปตามเกมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

“สมศักดิ์” ตั้งเป้ากวาดทั้ง 5 เขต พิษณุโลก

ส่วนที่ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระราชวังจันทน์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย พาผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย จ.พิษณุโลก ทั้ง 5 เขต ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 นายจเด็จ จันทรา เบอร์ 4 เขตเลือกตั้งที่ 2 นายนพพล เหลืองทองนารา เบอร์ 1 เขตเลือกตั้งที่ 3 นายเจนวิทย์ จันทรา เบอร์ 4 เขตเลือกตั้งที่ 4 นางสาวพิมพิชชา ชัยศุภกิจเจริญ เบอร์ 1 เขตเลือกตั้งที่ 5 นายเอกพงษ์ กุลเจริญ เบอร์ 3 เข้าสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดพิษณุโลกเพื่อขอพรในการสู้ศึกเลือกตั้ง ให้ผู้สมัคร สส.ทั้ง 5 เขต ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มั่นใจในผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ซึ่งลงพื้นที่ไม่เคยทอดทิ้งพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ทำตามแนวทางนโยบายของพรรคเพื่อไทย ซึ่งนโยบายของพรรคเพื่อไทยก็เป็นที่ถูกใจประชาชนทั่วประเทศแน่นอน เพราะกลั่นกรองจากปัญหาทั้งหลาย และทำงานกันอย่างเคร่งเครียด เมื่อนโยบายดีเป็นจุดแข็งของพรรค แม้ว่าในอดีตที่ผ่านมาเราจะถูกขัดแข้ง ขัดขา ทำงานไม่ได้เต็มเวลาเท่าที่ควร แต่เราก็ไม่ท้อ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ได้เห็นการเมืองหลายๆพรรคที่ผ่านมาในอดีต ก็มีความมั่นใจว่า ประชาชนที่เราไปพบปะเยี่ยมเยียนมีความมั่นใจในพรรคเพื่อไทย และมั่นใจในแคนดิเดตของนายกรัฐมนตรี ที่เปิดตัวออกมา พี่น้องก็มีความมั่นใจ ในผู้สมัครของเรา มีความขยันทำงานในสภาก็ดี การเยี่ยมเยือนพบปะประชาชนร่วมแก้ไขปัญหาก็ดี ทุกอย่างทำดีหมด ก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้เราขาดเป็นบางเขตเป็นไปไม่ได้ มีสิทธิ์ทั้งหมดทั้ง 5 เขต โดยเราตั้งเป้าไว้ครบทั้ง 5 คนว่าจะต้องทำให้ประชาชนได้พิจารณาเลือกเข้าไปทำงานทั้ง 5 เขต

ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย จะมาภาคเหนือตอนล่างหรือไม่ นายสมศักดิ์ มองว่า จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดตาก และจังหวัดสุโขทัย ก็เป็นจังหวัดหลัก ที่จะเสนอให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย มาในพื้นที่อย่างแน่นอน ส่วนนโยบายผู้สมัคร ได้นำเอานโยบายไปนำเสนอ ไปประกาศให้ประชาชนได้รับทราบ ถ้าแคนดิเดตนายกฯ มาก็จะทำให้เกิด ความมั่นใจว่าเราสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และทำในสิ่งที่เราประกาศไว้ ส่วนนโยบายของพรรคมีทั้งนโยบายเก่าและนโยบายใหม่ แนวทางการคิดคำนวณ เพื่อจะเดินหน้าไปสู่การทำความมั่นคงให้เกิดกับสินค้าเกษตร ผลิตผลของสินค้าเกษตรของพี่น้องประชาชน เรื่องกำไรจากการเพาะปลูกอย่างน้อยต้องมี 30% ขึ้นไปผมว่าเป็นจุดพื้นฐานเบื้องต้น เป็นราคาที่จะต้องยืนยันค้ำประกัน ในส่วนด้านราคาเพื่อเป็นรายได้ให้กับประชาชน แต่ราคาเป้าหมายจะต้องสูงกว่านั้น เป็นนโยบายของเราในการเป็นเมืองเกษตร ส่วนนโยบายอื่นๆ เช่น เรื่องสุขภาพ เรื่อง 30 บาท เรื่องการป้องกันโรค เรื่องอื่นๆ การปราบสแกมเมอร์ ปราบยาเสพติดสำคัญทุกเรื่อง ทำอย่างไรจะทำให้คนไทยอายุยืนยาวนาน ไม่ลำบากยากจน และปัญหาฝุ่น PM 2.5 ปัญหาความแห้งแล้ง น้ำท่วม พรรคเพื่อไทยมีความมั่นใจในนโยบายว่าจะถูกใจประชาชนแน่นอน

นายสมศักดิ์ ระบุว่า สำหรับการเดินสายในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง เราไม่มีความหนักใจใดๆ เราต้องบอกว่าจังหวัดตาก เราไม่ได้ผู้แทนในอดีต จึงต้องไปทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากขึ้น ส่วนจังหวัดพิษณุโลก เราเคยได้ สส. 3 เขต แต่จังหวัดพิษณุโลกมี 5 เขต ส่วนในจังหวัดสุโขทัยมี 4 เขต ครั้งที่แล้วเราได้ครบทั้ง 4 เขต เมื่อดูแล้วเราได้ผู้แทนใน 3 จังหวัดนี้ 7 ที่นั่ง แต่ทั้งหมดมี 12 เขต ก็ยังขาด 5 เขต ตรงนี้เป็นตัวชี้วัดให้ทางพรรคเราต้องทำงานกันหนักขึ้นเพื่อให้ได้ครบทั้ง 12 เขต ต่อไป