สมัครรับเลือกตั้ง สส.อ่างทอง วันแรกคึกคัก “ภราดร-กรวีร์” 2 พี่น้องตระกูลปริศนานันทกุล แห่งพรรคภูมิใจไทย จับได้หมายเลข 4 และหมายเลข 2 ส่วนพี่น้องตระกูลสินธุไพร “จิราพร-ชญาภา” บ้านใหญ่ร้อยเอ็ด ได้เบอร์ 6 ทั้งคู่
วันที่ 27 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการลงสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.อ่างทอง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง วันแรกคึกคัก มีบรรดาผู้สมัครและคณะเดินทางนำเอกสารมายื่นสมัครรับเลือกตั้งกันแต่เช้า ด้าน“บ้านใหญ่ปริศนานันทกุล” ของ “เสี่ยตือ-สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล” ส่ง 2 พี่น้อง แชมป์เก่า “ภราดร ปริศนานันทกุล” พี่ชาย และ “กรวีร์ ปริศนานันทกุล” น้องชาย แห่งพรรคภูมิใจไทย เข้าป้องกันแชมป์ จับหมายเลข
ซึ่งจังหวัดอ่างทอง แบ่งเขตการเลือกตั้ง จำนวน 2 เขต โดยผู้สมัครแต่ละพรรคต่างคุ้นเคย เข้าทักทายผู้ร่วมลงสมัครต่างพรรคกันอย่างชื่นมื่น มีผู้สนับสนุนของผู้สมัครแต่ละฝ่าย ต่างนำดอกไม้ และพวงมาลัย มาให้กำลังใจผู้สมัคร ก่อนถึงเวลาดำเนินการ ผู้สมัครแต่ละคนเข้ารับฟังคำชี้แจงรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่ กกต.ก่อนเดินทางเข้าสู่การดำเนินการลงสมัครรับเลือกตั้ง ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่นทุกพรรค
สำหรับการรับสมัครเลือกตั้งในวันแรก เขตเลือกตั้งที่ 1
นายณษกร เครือศิริ พรรคเพื่อไทย จับได้หมายเลข 1
นายธโนดม โสขุมา พรรคประชาชน จับได้หมายเลข 2
ดร.พณศธร อยู่ประเสริฐ พรรคกล้าธรรม จับได้หมายเลข 3
นายภราดร ปริศนานันทกุล พรรคภูมิใจไทย จับได้หมายเลข 4
เขตเลือกตั้งที่ 2
นายสาโรจน์ ฉ่ำจิตร พรรคประชาชน จับได้หมายเลข 1
นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล พรรคภูมิใจไทย จับได้หมายเลข 2
...
นายชวกร ศรีราชา พรรคเพื่อไทย จับได้หมายเลข 3
ส่วนที่จังหวัดร้อยเอ็ด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย พรรคกล้าธรรม พรรคประชาชน เดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้า
สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 1 อ.เมืองร้อยเอ็ด เก้าอี้ตัวเดิม เป็นของ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ พรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งได้ย้ายพรรคมาที่ภูมิใจไทย ส่วนเบอร์ของการเลือกตั้งคือ เบอร์ 1 นางสาวสุดารัตน์ วรรณพัฒน์ เบอร์ 2 นายวีระธาร มาศเกษม เบอร์ 3 นายสถาพร ว่องสัธนพงษ์ (พรรคเพื่อไทย คู่แข่งคนสำคัญ) เบอร์ 4 นางสาวเกตุวรินทร์ ไฮเนกคอ เบอร์ 5 นายอนุรักษ์ จุรีมาศ (พรรคภูมิใจไทย สส.เก่า)
เขตเมืองเป็นพื้นที่เปิด รับทั้งกระแสพรรคและผู้สมัครหน้าใหม่ ฐานคะแนนของนายอนุรักษ์ยังแข็งแรงจากบทบาทในพื้นที่ แต่ไม่ใช่เขตปิด หากกระแสพรรคเพื่อไทยแรง หรือผู้สมัครมีภาพลักษณ์ใหม่ เขย่าคะแนนชนชั้นกลางได้ มีโอกาสเบียดสูง จัดเป็นเขต “สูสี–วัดกระแส” ซึ่ง นายอนุรักษ์ จุรีมาศ อาจจะได้เปรียบคะแนนเสียงในพื้นที่เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ส่วนนายสถาพร ว่องสัธนพงษ์ พรรคเพื่อไทย คู่แข่งคนสำคัญ ก็ลงพื้นที่ไม่เคยขาด อาจจะมีโอกาสเบียดเข้าเส้นชัย
เขตเลือกตั้งที่ 2 อำเภอโพธิ์ชัย อำเภอจังหาร อำเภอเชียงขวัญ อำเภอโพนทอง ( เฉพาะอุ่มเม้า ต.นาอุดม ต.คำนาดี ) อำเภอธวัชบุรี (เฉพาะตำบลหนองพอก ต.ธวัชบุรี ต.มะอึ) เก้าอี้ตัวเดิม เป็นของ นายฉลาด ขามช่วง พรรคเพื่อไทย ส่วนเบอร์ของการเลือกตั้ง คือ เบอร์ 1 ของ นายฉลาด ขามช่วง พรรคเพื่อไทย เบอร์ 2 นายทินกร อ่อนประทุม พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 3 นายเอกรัฐ พลซื่อ พรรคกล้าธรรม (คู่แข่งคนสำคัญ) เบอร์ 4 นางสาวนริศรา ประเสริฐสังข์
แม้คะแนนจะไม่ทิ้งห่างมากนัก แต่ฐานเสียงของนายฉลาดถือว่ามั่นคงจากเครือข่ายพื้นที่ และชื่อเสียงทางการเมือง เขตนี้ประชาชนยังให้ความสำคัญกับตัวบุคคลและการทำงานต่อเนื่อง ทำให้ สส.คนเก่า ยังได้เปรียบในเชิงโครงสร้างคะแนน
เขตเลือกตั้งที่ 3 อำเภอหนองพอก อำเภอเมยวดี อำเภอโพนทอง ( เฉพาะตำบลแวง ต.โคกกกม่วง ต.สว่าง ต.หนองใหญ่ ต.โนนชัยศรี ต.พรมสวรรค์ ต.สระนกแก้ว ต.วังสามัคคี ต.โพธิ์ทอง )เก้าอี้ตัวเดิม เป็นของนางรัชนี พลซื่อ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้ย้ายมาพรรคกล้าธรรม ส่วนเบอร์ของการเลือกตั้งคือ เบอร์ 1 นางสาวสิวินีย์ ปากชานิ เบอร์ 2 นายร่วมศักดิ์ พลเยี่ยม เบอร์ 3 นางรัชนี พลซื่อ พรรคกล้าธรรม ( อดีต สส.เก่า ) เบอร์ 4 นางสาววาสินีพร พลเยี่ยม เบอร์ 5 นายกษิเดช แก้วภูมิแห่ เบอร์ 5 นายแทนรัฐ สุจารี พรรคเพื่อไทย คู่แข่งคนสำคัญ
เป็นเขตที่สะท้อนการแข่งขันระหว่างพรรคการเมืองอย่างชัดเจน ฐานคะแนนของนางรัชนีค่อนข้างชัดเจน จากผลงานที่ผ่านมา แต่เขตนี้ยังถูกมองว่าเป็น “เขตเปลี่ยนผ่าน” หากคู่แข่งสามารถดึงคะแนนจากกลุ่มใหม่ หรือสร้างกระแสได้ อาจทำให้การแข่งขันเข้มข้นขึ้นอย่างมาก โดยมีคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทยคือ ดร.แทนรัฐ สุจารี ลูกชายของ อดีต สส.นิรมิตร สุจารี
เขตเลือกตั้งที่ 4 อำเภอเสลภูมิ อำเภอทุ่งเขาหลวง (เฉพาะตำบลทุ่งเขาหลวง ต.บึงงาม ต.มะบ้า) อำเภอธวัชบุรี (เฉพาะตำบลบึงนคร ต.ธงธานี ต.ไพศาล) เก้าอี้ตัวเดิม เป็นของ นายนรากร นาเมืองรักษ์ พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้ย้ายมาพรรคภูมิใจไทย ส่วนเบอร์ของการเลือกตั้งของคู่แข่งคนสำคัญคือ เบอร์ 9 นายนรากร นาเมืองรักษ์ พรรคภูมิใจไทย ( อดีต สส.คนเก่า) เบอร์ 7 นายศุภศิษญ์ กอเจริญยศ พรรคเพื่อไทย และ เบอร์ 3 นายนีโอ พลซื่อ พรรคกล้าธรรม ลูกชายนางรัชนี พลซื่อ รองหัวหน้าพรรคกล้าธรรม
ฐานเสียงของ สส. คนเก่าในเขตนี้ถือว่าแข็งแรง มีเครือข่ายท้องถิ่นและผู้นำชุมชนหนุนหลังชัดเจน การเปลี่ยนแปลงผลเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้ยาก เว้นแต่จะเกิดกระแสการเมืองระดับประเทศที่แรงเป็นพิเศษ ซึ่งมีคู่แข่งคนสำคัญคือ นายศุภศิษญ์ กอเจริญยศ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี จากพรรคเพื่อไทย
เขตเลือกตั้งที่ 5 อำเภอพนมไพร อำเภออาจสามารถ (เฉพาะตำบลโพนเมือง ต.บ้านแจ้ง ต.อาจสามารถ ต.หน่อม ต.หนองหมื่นถ่าน ต.หนองขาม) อำเภอธวัชบุรี (เฉพาะตำบลนิเวศน์ ต.หนองไผ่ ต.อุ่มเม้า) อ.ทุ่งเขาหลวง (ยกเว้นตำบลทุ่งเขาหลวง ต.บึงงาม ต.มะบ้า) อ.หนองฮี (เฉพาะตำบลหนองฮี)
เก้าอี้ตัวเดิม เป็นของ นางสาวจิราพร สินธุไพร พรรคเพื่อไทย ได้เบอร์ 4 ส่วนคู่แข่งคนสำคัญคือ นายชัยวุฒิ เอี่ยมรัศมีกุล จากพรรคภูมิใจไทย เบอร์ 6 ถือเป็นเขตที่ สส.คนเก่ามีฐานคะแนนแข็งแกร่งมากที่สุด เขตหนึ่งของจังหวัด คะแนนนำห่างคู่แข่งอย่างชัดเจน สะท้อนความนิยมส่วนบุคคล
จากการทำงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เขตนี้ถูกมองว่าเป็น “เขตมั่นคง” ที่คู่แข่งเจาะได้ยากเป็นพิเศษ ซึ่งมีคู่แข่งคนสำคัญคือ นายชัยวุฒิ เอี่ยมรัศมีกุล จากพรรคภูมิใจไทย
เขตเลือกตั้งที่ 6 อำเภอสุวรรณภูมิ อำเภอโพนทราย อำเภอหนองฮี (ยกเว้นตำบลหนองฮี)
เก้าอี้ตัวเดิม เป็นของ นายกิตติ สมทรัพย์ พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้ย้ายมาพรรคภูมิใจไทย จับสลากได้เบอร์ 4 โดยมีคู่แข่งคนสำคัญคือ นายคารม พลพรกลาง พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 8 แม้จะเป็นเขตขนาดใหญ่ แต่ฐานคะแนนของ สส.คนเก่ายังถือว่ามั่นคง อย่างไรก็ตาม คะแนนกระจายหลายกลุ่ม ทำให้เขตนี้ยังมีโอกาสเกิดการแข่งขันสูง หากมีผู้สมัครที่สามารถรวมคะแนนจากหลายพื้นที่เข้าด้วยกัน
เขตเลือกตั้งที่ 7 อำเภอเกษตรวิสัย อำเภอปทุมรัตต์ อำเภอเมืองสรวง (เฉพาะตำบลคูเมือง ต.กกกุง ต.หนองหิน) เก้าอี้เดิม คือนายชัชวาล แพทยาไทย พรรคไทยสร้างไทย จับได้เบอร์ 4 โดยมีคู่แข่งคนสำคัญคือ นางนวรัตน์ พาโคกทม พรรคเพื่อไทย เบอร์ 1 เป็นเขตที่แตกต่างจากหลายพื้นที่เนื่องจากไม่ได้อยู่ภายใต้พรรคใหญ่ ฐานคะแนนของนายชัชวาล สะท้อนความนิยมตัวบุคคล และการเมืองเชิงพื้นที่อย่างแท้จริง แม้การแข่งขันจะเข้มข้น แต่ สส.คนเก่ายังถือความได้เปรียบในด้านฐานเสียงเดิม
เขตเลือกตั้งที่ 8 นางสาวชญาภา สินธุไพร พรรคเพื่อไทย ได้เบอร์ 5 ฐานคะแนนของ สส.คนเก่า ค่อนข้างชัดเจน แต่ลักษณะพื้นที่ที่เป็นเขตผสมหลายอำเภอ ทำให้การแข่งขันยังเปิดกว้าง เขตนี้จึงถูกมองว่าเป็นหนึ่งในเขตที่ต้องจับตาการเคลื่อนไหวช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง ซึ่งมีคู่แข่งคนสำคัญ ซึ่งถือว่าเป็นตระกูลเดียวกันคือ นายธนชัย สินธุไพร จากพรรคภูมิใจไทย จับสลากได้เบอร์ 9 ซึ่งเป็นลูกชายของนางจุรีพร สินธุไพร
ภาพรวมทั้งจังหวัดร้อยเอ็ด การวิเคราะห์จากข้อมูล สส.คนเก่า พบว่า พรรคเพื่อไทยครองฐานคะแนนหลัก ในหลายเขต สส.คนเก่ายังได้เปรียบจากผลงานและเครือข่ายพื้นที่ บางเขตยังเปิดโอกาสให้เกิดการแข่งขันสูง หากมีปัจจัยกระแสการเมืองและผู้สมัครหน้าใหม่เข้ามาเสริม การเลือกตั้งครั้งต่อไปของจังหวัดร้อยเอ็ด จึงไม่ใช่เพียงการรักษาฐานเดิม แต่เป็นบททดสอบสำคัญว่า กระแสการเมืองใหม่จะสามารถเขย่าโครงสร้างเดิมได้มากน้อยเพียงใด