“ชัยวุฒิ” หัวหน้าพรรครักชาติ เผยตั้งพรรคใหม่ ไม่เกี่ยวข่าวปัญหาสุขภาพ “ลุงป้อม” ไม่ตั้งเป้า สส. แต่หวังมีคนรุ่นใหม่เข้าการเมือง รอเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ พรุ่งนี้

วันที่ 27 ธันวาคม 2568 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ หัวหน้าพรรครักชาติ ให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐทีวีว่า วันนี้ได้นำผู้สมัคร สส.กทม. มารับสมัครเลือกตั้ง 30 เขต ส่วนทั่วประเทศส่งไม่เยอะ เพราะเพิ่งเปิดพรรคเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม แต่ยุบสภาเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม จึงทำให้เตรียมตัวหาผู้สมัครไม่ทัน

นายชัยวุฒิ ระบุว่า อยากส่งอุดมการณ์รักชาติไปถึงพี่น้องประชาชน และเยาวชนคนรุ่นใหม่ ส่วนความเป็นมาของพรรครักชาติ หลังจากก่อนหน้านี้ตนเองเคยอยู่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชัยวุฒิ บอกว่า พรรคการเมืองที่มีอยู่ไม่ตอบโจทย์พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ถ้าไปอยู่พรรคเก่าคนรุ่นใหม่ก็จะไม่มีบทบาท ทำงานยาก ตนเองจึงสร้างพรรคขึ้นมาเพื่อให้คนรุ่นใหม่ทำงานด้วยกัน พร้อมระบุว่า นโยบายพรรคก็มีคนรุ่นใหม่ช่วยกันคิด อยากให้เป็นพรรคที่มีความรักชาติ

เมื่อถามว่า นายชัยวุฒิ ไปได้ข่าวอะไรมาก่อนหรือไม่ จึงออกมาจากพรรคเดิม นายชัยวุฒิ บอกว่าไม่ใช่อย่างนั้น แต่ยอมรับว่าเคยได้ไปบอกกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าอยากไปทำพรรค เพราะพรรคปัจจุบันไม่ตอบโจทย์กับคนรุ่นใหม่ จึงอยากไปทำพรรคให้มีบรรยากาศว่าคนรุ่นใหม่เข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศ ซึ่งพลเอกประวิตรก็ทำพรรคพลังประชารัฐไป ส่วนตนก็แยกมาทำพรรคใหม่ ยืนยันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่พลเอกประวิตร สุขภาพไม่ดี เพราะข่าวออกมาทีหลัง และสมัยที่ตนอยู่กับพลเอกประวิตร ก็จะเห็นอยู่แล้วว่าท่านสุขภาพไม่ดีอยู่แล้ว และย้ำว่าเมื่อมาทำพรรครักชาติแล้ว พลเอกประวิตรไม่ได้ให้คำแนะนำอะไร

นายชัยวุฒิ กล่าวถึงนโยบายหลักของพรรครักชาติว่า เรื่องอุดมการณ์รักชาติ อยากให้แนวคิดทำการเมืองเพื่อให้ประเทศดีขึ้นจริงๆ อะไรที่เป็นการชังชาติ อย่าไปทำ นโยบายประชานิยม แจกเงิน เราก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น อยากให้มีคนดีๆ เก่งๆ เข้ามาการเมืองมากๆ อย่าให้คนกลัวการเมือง ส่วนแคนดิเดตนายกฯ ให้รอดูวันพรุ่งนี้ ( 28 ธ.ค.) ซึ่งขณะนี้ยังทาบทามอยู่ ส่วนจำนวน สส. ไม่ได้ตั้งเป้าไว้ แต่จะทำให้ดีที่สุด

...

นายชัยวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า อยากให้เข้าใจการเมือง พรรคเก่ามีจุดแข็ง คนรู้จักเยอะ มีแฟนคลับเยอะ มี สส.เก่า แต่มันดีขึ้นไหม ทุกพรรคมีปัญหาหมด บางพรรครับปากจะแก้เศรษฐกิจก็ทำไม่ได้ เราจึงอยากทำพรรค เพื่อเอาคนดีไปไล่น้ำเสีย อย่างน้อยเป็นก้าวแรก ให้การเมืองดีขึ้น