“ศุภมาส-เอกนัฏ” นำทีมผู้สมัคร สส.กทม. พรรคภูมิใจไทย สมัครเลือกตั้ง 2569 ชูสานต่อคนละครึ่งพลัส ยันไม่ใช่ประชานิยม รวมถึงนโยบายความมั่นคง ลั่น 2 เดือนพิสูจน์แล้วไม่ได้พูดอย่างเดียวแต่ทำให้เห็น


เมื่อเวลา 06.43 น. วันที่ 27 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐทีวี หลังเดินทางมาถึงอาคารกีฬาเวสน์ 2 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น (ดินแดง) กรุงเทพมหานคร นำโดย น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี และ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ในฐานะแกนนำเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคภูมิใจไทย พร้อมผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กทม. ทั้ง 33 เขต ว่า เราไม่ได้มีแค่ใครคนใดคนหนึ่ง แต่มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยหาเสียงต่างๆ อาทิ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ และมีอีกหลายคนที่มาช่วยรณรงค์หาเสียง ทั้งนี้ อยากให้คนกรุงเทพฯ และคนไทยเห็นว่าคนเหล่านี้ยังเลือกพรรคภูมิใจไทย ขอให้มีความเชื่อมั่นว่าเป็นการการันตีเบื้องต้นแล้วว่าพิสูจน์ความจริงใจ

ทางด้าน นายเอกนัฏ ระบุว่า จุดเด่นครั้งนี้คือการหาเสียงด้วยความจริงใจ มีความตั้งใจเกินร้อย ไม่กี่ครั้งในประวัติศาสตร์ที่พรรคการเมืองประกาศก่อนล่วงหน้าว่าจะตั้งใครเป็นรองนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า “พูดแล้วทำพลัส” ไม่ได้ขายฝัน อีกทั้งนโยบายต่างๆ เราก็บอกหมดว่าจะทำอย่างไร เอาใครมาทำ คิดว่าเที่ยวนี้มาพร้อมความจริงใจมากๆ เราพูดเปิดทุกอย่าง 73 วันทำมาแล้ว และจากนี้ถ้าได้กลับมาจะทำอย่างไร ไม่มีชัดเจนมากกว่านี้อีกแล้ว

ขณะที่ น.ส.ศุภมาส ระบุอีกครั้งว่า การเลือกตั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนๆ เป็นครั้งแรกที่ประชาชนได้เห็นภาพหลังเลือกตั้ง นโยบายใครก็เขียนได้ พูดได้ แต่ 2 เดือนที่ผ่านมา อาทิ คนละครึ่งพลัส เข้าถึงประชาชนโดยตรง เรื่องชายแดน เราก็ได้คนเก่งอย่าง นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บริหารจัดการ ซึ่งการต่อสู้ในเวทีโลกเป็นสิ่งสำคัญ คนเชื่อว่าทำได้จริง ไม่ได้พูดอย่างเดียว แต่ทำให้เห็นแล้ว

...

สำหรับนโยบาย 2 อย่าง น.ส.ศุภมาส ขอชูด้านเศรษฐกิจที่ทำต่อและต่อยอด คือ คนละครึ่งพลัส เป็นนโยบายที่ไม่ใช่ประชานิยม แต่ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดรายจ่าย อีกเรื่องคือนโยบายความมั่นคง เป็นเรื่องของคนไทยทั้งประเทศ เราต้องปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

เมื่อถามทิ้งท้ายว่าทำไมต้องเลือกพรรคภูมิใจไทย นายเอกนัฏ บอกว่า ผู้สมัครของเรามีหลากหลาย ตั้งแต่รุ่นเก่า หน้าใหม่ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย และอีกหลายๆ คน ซึ่งเรานำเสนอผู้สมัครที่มีประสบการณ์มาให้ประชาชน

ในคำถาม พรรคภูมิใจไทยตั้งเป้าไว้หรือยังว่า กทม. จะได้กี่ที่นั่ง น.ส.ศุภมาศ กล่าวว่า เรื่องตั้งเป้าทุกคนก็มีการตั้งเป้า แต่เรายังคงพูดในวันนี้ไม่ได้ ขอให้เวลาผู้สมัครได้ลงพื้นที่ และนำเสนอนโยบายถึงพี่น้องประชาชนก่อน แต่ยืนยันว่าเรามีเป้าอย่างแน่นอน แต่ย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยวันนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่คนใดคนหนึ่ง แต่ละคนก็มีแฟนคลับ และเราก็ทำงานกันเป็นทีม

เมื่อถามว่าพื้นที่ กทม. จะแพ้ไม่ได้ใช่หรือไม่ น.ส.ศุภมาศ กล่าวว่า เวลาเราลงเลือกตั้งแล้วเราก็ไม่ได้คิดเรื่องแพ้ ทุกคนก็คิดแต่เรื่องชนะ ทำอย่างไรให้ชนะ คือทำดีที่สุดเท่านั้น เพราะเราไม่ได้แข่งกับคนอื่น เราแข่งกับตัวเอง ซึ่งเราได้เห็นแล้วว่าจะมีใครบ้างที่เข้ามาทำงาน และยังมีมืออาชีพที่เรากำลังพยายามทาบทามอยู่ ฉะนั้น เมื่อคนเหล่านี้เลือกพรรคภูมิใจไทยแล้ว เขาก็เห็นในสิ่งที่เขาอยากจะมารับใช้บ้านเมือง และทุกคนก็หวังทำเพื่อประเทศชาติ พร้อมย้ำว่าเราเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประชาชน และเชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกของคน กทม.

ส่วนคำถามว่ามีโอกาสที่จะเห็น นายเอกนิติ และนางศุภจี มาช่วยหาเสียงในพื้นที่ กทม. หรือไม่ นางสาวศุภมาศ ยืนยันว่าเห็นแน่นอน เพราะทั้งสองท่านเป็นผู้ช่วยหาเสียงที่ถูกต้องตามกฎหมาย