“อนุทิน” ขออย่ากล่าวหาพรรคไหนใช้ทุนเทา ยันไม่เคยคิดแข่ง “เท้ง”  ชี้ ม.112 เกิดก่อน ปชน. ถ้ามีแก้ ไม่มี ภท.  ร้องเพลง “บริการรับฝากหัวใจ” หลังถูกถามรอสายโทรเข้าคืน 8 ก.พ. 69 

วันที่ 26 ธันวาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล แต่หลายพรรคกลับปฏิเสธไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม ทำให้เกิดความกดดันกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ว่า ฟังการตัดสินจากประชาชน

ส่วนการที่ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า บอกว่าถ้าไม่มีใครจับมือจะจับมือกันเอง นายอนุทิน กล่าวว่า ฟังผลการตัดสินใจของประชาชน ที่ผ่านมาทำแบบนี้มาตลอด ตั้งแต่เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ผ่านการเลือกตั้งมา 3 ครั้ง ก็ไม่เคยตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง แต่ตัดสินใจบนพื้นฐานของประชาชน จากการเลือกตั้ง ซึ่งตนพูดย้ำทุกเวทีว่า ที่ผ่านมาได้แปลงการตัดสินใจของประชาชน มาเป็นความต้องการของประชาชน ยึดหลักนี้มาตลอด ขอความกรุณาไม่ถามว่าใครจะจับกับใคร ตนไปกับประชาชน ไปกับ VOTER ของตน

เมื่อถามว่าตอนนี้ยังไม่มีการตัดสินว่าพรรคใดใช้ทุนเทา นายอนุทิน กล่าวว่า จะไปเชื่อเรื่องการกล่าวหา การให้ร้าย คนใดคนหนึ่งพรรคใดพรรคหนึ่ง หรือก่อนที่ศาลหรือกระบวนการยุติธรรมจะตัดสิน ทำแบบนั้นคงไม่ได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือดูอีก 46 วันก็จะรู้แล้วว่าประชาชนต้องการอะไร

ส่วนที่ นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ประกาศจะตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคภูมิใจไทยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกพรรคแข่งกันหมด ไม่เห็นแปลกอะไรเลย ก่อนจะย้ำว่า ส่วนตัวไม่เคยแข่งกับใคร แต่แข่งเสนอนโยบาย แข่งกับตัวเอง ทำอย่างไรให้ประชาชนรับนโยบาย และเชื่อมั่นในตัวพรรคภูมิใจไทย และกาพรรคภูมิใจไทย

...

ส่วนความมั่นใจในนโยบายที่ประกาศออกไปจะทำให้จำนวน สส. วิ่งถึงหลักร้อย นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องมั่นใจสิครับ พร้อมกล่าวต่อว่าเพราะไม่ได้ทำคนเดียว เมื่อก่อนพรรคภูมิใจไทยอาจมีขาดๆ เกินๆ บ้าง บางส่วนอาจไม่แข็งตรงนี้อาจจะหาผู้เชี่ยวชาญไม่ได้ พรีเซนต์กับประชาชนไม่ขาด แต่ตอนนี้พรรคภูมิใจไทยพรีเซนต์ขาดหมด ทั้งมิติเศรษฐกิจ การต่างประเทศ ความมั่นคง สังคม การศึกษา และสุขภาพ รอบนี้เราระบุชื่อคนได้เลย

ภายหลังเปิดนโยบายก็มีนักร้องเข้ามาร้องเป็นจำนวนมาก เนื่องจากการสัญญาว่าจะกลับมาใช้หนี้โครงการคนละครึ่งพลัส 2,400 บาท นายอนุทิน กล่าวว่าไม่ต้องหวัง ตนไม่มีถุงอะไรไปแขวนหน้าประตูบ้านอย่างแน่นอน

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่หัวหน้าพรรคประชาชน บอกว่าหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยใช้ ม.112 มาเป็นนิทานหลอกเด็ก ว่า มาตรา 112 ไม่เคยเป็นนิทานหลอกเด็ก เพราะเกิดขึ้นก่อนที่จะมีพรรคประชาชนอีก ในปี 2552 ตั้งแต่สถาปนาพรรคภูมิใจไทย และตอนนี้ชอบใช้คำว่าสถาปนา เพราะชอบเวลาที่กองทัพใช้คำว่าสถาปนาบูรณภาพแห่งดินแดน

เมื่อถามย้ำว่า นายณัฐพงษ์ ระบุว่าไม่อยากให้เอาเรื่องนี้ไปหลอกประชาชนให้เลือกระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า ถ้าคิดจะแก้มาตรา 112 อยู่ ตนก็ร่วมด้วยไม่ได้ ซึ่งก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าถ้าเขาตกผลึกแล้ว อนาคตก็มาแก้ไขได้ ซึ่งก็ชัดเจนอยู่แล้วว่ามีความคิดที่จะแก้ไขอยู่ แล้วใครหลอกประชาชนกันแน่ ซึ่งตนไม่หลอกแน่นอน มีแตะมาตรา 112 เมื่อไหร่ ก็ไม่มีพรรคภูมิใจไทย ตนไม่ได้หลอก ชัดเจนจนไม่รู้จะชัดเจนอย่างไรแล้ว

ส่วนกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ระบุว่า นายกรัฐมนตรีเข้าใจผิดเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 เพราะพรรคประชาชนต้องการแก้แค่เฉพาะกฎหมายนิรโทษกรรม นายอนุทิน กล่าวว่า ตนมองว่าเรื่องนี้ นิรโทษกรรม คือคนที่กระทำความผิดเกี่ยวกับมาตรา 112 แล้วไม่ต้องรับผิด ซึ่งก็ไม่ใช่แนวทางของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ได้เข้าใจผิด

เมื่อถามว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ได้ปิดประตูพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง รวมถึงพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยึดประชาชน สิ่งที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้ง 2-3 ครั้งที่ผ่านมา การไปพูดมัดตัวเองไว้ก่อนแล้วทำกันไม่ได้ และมองข้ามประชาชนไป แล้วยังจะให้ไปมัดตัวเอง ตนถึงบอกว่าไม่หลอกประชาชน ตนขอฟังประชาชนก่อน การจะจับตนไปมัดกับใครคือประชาชน

ในคืนวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 คาดหวังว่าจะมีการกระหน่ำโทรศัพท์เข้ามาหรือไม่ นายอนุทิน ร้องเพลง “ท่านกำลังเข้าสู่บริการรับฝาก” ก่อนจะออกจากวงสัมภาษณ์ทันที