สรุปผลคะแนนจากผู้ชมทั่วประเทศหลังจบเวทีดีเบตยกแรก ผู้อ่านยกให้ เท้ง-ณัฐพงษ์ เป็นอันดับหนึ่งในทุกหัวข้อ ขณะที่ปัญหาค่าครองชีพกลายเป็นโจทย์ใหญ่ที่ประชาชนอยากฟังที่สุดในรอบถัดไป
กระแสความตื่นตัวทางการเมืองพุ่งสูงขึ้นทันทีหลังจบเวทีดีเบต “ไทยรัฐดีเบต #ดีเบตอีกสักตั้ง ไทยรัฐเลือกตั้ง 69 ท้าชนนโยบาย พาไทยออกจากเงามืด” เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นนัดประเดิมการแข่งขันครั้งสำคัญก่อนก้าวสู่การเลือกตั้งปี 2569 โดยจากการสำรวจความคิดเห็นผ่าน Thairath Poll พบว่า ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ จากพรรคประชาชน เป็นนักการเมืองที่ทำผลงานได้โดนใจผู้ชมมากที่สุด โดยครองอันดับหนึ่งในหมวดภาพรวมที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกตั้งด้วยคะแนนร้อยละ 39.46 ตามมาด้วย ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ จากพรรคเพื่อไทย ที่ร้อยละ 22.38, อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 13.87 และพลเอก รังษี กิติญาณทรัพย์ จากพรรคเศรษฐกิจ ที่ร้อยละ 10.18 สะท้อนให้เห็นว่าความชัดเจนในการนำเสนอสามารถสร้างแรงกระเพื่อมต่อการตัดสินใจของประชาชนได้อย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อเจาะลึกไปที่ประเด็นการฟาดฟันทางนโยบายรายหัวข้อ พบว่าใน ประเด็นปัญหาทุนเทาและสแกมเมอร์ พรรคประชาชนยังคงได้รับความไว้วางใจเป็นอันดับหนึ่งด้วยคะแนนร้อยละ 42.02 ตามมาด้วยพรรคเพื่อไทยที่ร้อยละ 20.37 พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเศรษฐกิจ ที่ทำคะแนนได้โดดเด่นไม่แพ้กันที่ร้อยละ 12.26 และ 11.91 ตามลำดับ
ขณะที่ ประเด็นความชัดเจนเรื่องจุดยืนทางการเมือง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ได้รับคะแนนนำโด่งถึงร้อยละ 42.02 โดยมี ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ตามมาที่ร้อยละ 21.07 และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ร้อยละ 14.61 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนให้ความสำคัญกับความชัดเจนของขั้วการเมืองไม่น้อย
...
ประเด็นปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นเรื่องความมั่นคงที่ละเอียดอ่อน ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ยังคงได้รับคะแนนสูงสุดที่ร้อยละ 38.22 โดยมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยอย่าง ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ตามมาที่ร้อยละ 20.53, พลเอก รังษี กิติญาณทรัพย์ ร้อยละ 16.38 และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ร้อยละ 11.30
อย่างไรก็ตาม จากคำถามที่ว่าปัญหาที่ประชาชนอยากฟังที่สุดในดีเบตครั้งหน้ามากที่สุดคือ "ปากท้องและค่าครองชีพ" ซึ่งสูงถึงร้อยละ 33.86 ตามมาด้วยการปราบปรามคอร์รัปชันและทุนผูกขาดที่ร้อยละ 32.52 และการแก้รัฐธรรมนูญ รวมถึงการผลักดันค่าแรงขั้นต่ำก็ยังอยู่ในขอบเขตความสนใจของประชาชน ที่ตัวเลข 11.94 และ 10.05 ตามลำดับ
สำหรับการสำรวจครั้งนี้ มีผู้แสดงความเห็นสูงสุด 5,858 คน