“อนุทิน” บอก “สีหศักดิ์” ตอบรับแคนดิเดตนายกฯ ภูมิใจไทย ผ่านญาณ ลั่นของแบบนี้มองหน้าก็รู้ ชี้เหมาะสมในช่วงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
วันที่ 25 ธันวาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงเหตุผลที่ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยลำดับที่ 2 ว่าพรรคภูมิใจไทยขยายตัวเพิ่มมากขึ้น และเชื่อมั่นว่าจะได้ สส. ที่เพิ่มมากขึ้น จึงเห็นว่าที่ผ่านมาการมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว หากเกิดสถานการณ์อะไรต่างๆ จะทำให้การทำงานเกิดความขาดช่วงได้ เลยต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดเอาไว้
ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีชื่อของ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เราพยายามที่จะทาบทามบุคคลที่เป็นที่ยอมรับและได้รับความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน แต่ละท่านอาจมีข้อจำกัดบางประการที่เราต้องเคารพ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ท่านทั้งสองก็ตกลงที่จะร่วมเป็นทีมงานหากตนได้มีโอกาสบริหารประเทศต่อไป ฉะนั้นเราจะไปบังคับไม่ได้ เพราะเขาอาจจะมีความสบายใจในการทำงานในระดับนี้
ส่วนที่นายสีหศักดิ์เป็นทั้งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีด้วย น่าจะมีเครดิตในการไปพูดคุยกับต่างประเทศมากขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า คิดว่าพี่น้องประชาชนคงเห็นความทุ่มเทในการทำงานของนายสีหศักดิ์ ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่เราต้องใช้เรื่องการต่างประเทศ ในการทำให้ประเทศไทยมีสถานะเป็นที่ยอมรับ และสามารถดำรงตนได้อย่างมีศักดิ์ศรีในระดับนานาชาติ
...
นายอนุทิน ยังกล่าวอีกว่า นายสีหศักดิ์ได้ปฏิบัติหน้าที่แล้ว ในส่วนของตนที่เป็นนายกรัฐมนตรีก็มีความพึงพอใจและขอบคุณในการทำงานของท่าน ขณะเดียวกันในเรื่องการต่างประเทศนายสีหศักดิ์ก็สามารถครอบคลุมได้ทั้งในเรื่องของการค้าระหว่างประเทศ และด้วยความเกรงใจตนมากๆท่านจึงตอบรับที่จะมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีให้กับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งท่านก็มีความเหมาะสม ถ้าในอนาคตมีเหตุอะไรก็ตามที่ตนไม่สามารถดำรงตำแหน่งได้ พรรคภูมิใจไทยก็มองแล้วว่าหากเป็นนายสีหศักดิ์มาทำหน้าที่แทนจะไม่มีอะไรหยุดชะงักและไม่มีอุปสรรคในการสานต่องาน โดยย้ำว่าเป็นกรณีที่หากเราได้มีโอกาสมาบริหารประเทศ เราจึงต้องคิดเผื่อ จะไปคิดสวยอย่างเดียวไม่ได้ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องสูงสุดไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม
ส่วนนายสีหศักดิ์ตอบรับเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยในวันไหน เพราะมีบางรายการอ้างว่าบังคับมาสวมเสื้อกั๊กภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า จะไปบังคับใครได้ อายุและวุฒิภาวะขนาดนี้กันแล้วก็เห็นมีคนโทรมาบอกว่ามีรายการของนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ หรือ หมาแก่ ตนก็ว่าแกวิเคราะห์ไปเรื่อย สมัยเด็กหากตนทำแบบนี้ก็ถูกคุณพ่อดุตาย เลยบอกว่าอย่าโชว์อะไรที่เขาเรียกว่าไม่ฉลาด และนายสีหศักดิ์ ได้สมัครสมาชิกพรรคแล้ว
ส่วนนายสีหศักดิ์ รับปากเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีวันไหน นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคุยกับท่านมาเรื่อยๆ ในบรรดาทั้ง 3 ท่านคือ นายเอกนิติ นางศุภจี และ นายสีหศักดิ์ ซึ่งมีประสบการณ์ทำงานในระดับประเทศอย่างยาวนาน เพราะหลังจากท่านพ้นปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ประสบการณ์ที่ผ่านมาก็ยังเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ท่านอาจจะสัมผัสในเรื่องของงานการเมืองมากหน่อย และท่านก็ใช้ประสบการณ์ในอดีตที่เคยเป็นทูตในหลายประเทศ หากจะให้พูดทั้ง 3 ท่านก็มีความเหมาะสม ฝากบ้านเมืองกับบุคคลเหล่านี้ได้หมด คิดว่าไม่ใช่ประเด็นการเมืองและการบังคับขู่เข็ญใดๆ จะเป็นไปได้อย่างไรคนระดับนี้ แม้กระทั่งไปบังคับให้ใส่เสื้อกั๊ก ในงานแถลงนโยบายพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. นายสีหศักดิ์ ท่านก็ใส่เสื้อนอกมา แต่เมื่อนายสีหศักดิ์ เห็นทุกคนใส่เสื้อกั๊กท่านก็ถอดเสื้อนอกออก และใส่เสื้อกั๊ก และมาถ่ายรูปหมู่มาใส่เสื้อด้วยกัน เราไม่ได้บังคับอะไร ตอนที่ท่านแสดงวิสัยทัศน์พวกเรายังบอกว่าท่านใส่สูทก็ได้ เพราะท่านแสดงวิสัยทัศน์ในเรื่องต่างประเทศ ท่านสบายใจก็เอาแบบนั้น ทุกคนก็แฮบปี้ และท่านเอกนิติ นางศุภจี จะไปบังคับอะไรได้ ทุกคนก็ทำด้วยความเต็มใจ
“การวิพากษ์วิจารณ์ด้วยการขาดข้อมูล คงติดต่ออะไรไม่ได้ คงไม่มีใครอยากให้ข้อมูลแล้ว เพราะเอาไปวิเคราะห์มั่วๆซั่วๆแบบนี้ ประชาชนก็ได้รับข่าวสารคลาดเคลื่อน และไม่มีประโยชน์อะไรกับเรื่องนี้ว่าจะบังคับหรือไม่บังคับ ไม่ได้พูดถึงเรื่องเนื้อหาหรือประโยชน์ ฝีมือ ประสบการณ์ของคนเหล่านี้ที่ทำให้กับบ้านเมืองคงต้องมีการยกระดับในการเสนอข่าวโดยเฉพาะข่าวการเมืองที่อยู่ในช่วงสภาวะต้องมีการเลือกตั้ง ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวจะหาว่าสื่อฯไม่เป็นกลาง”
เมื่อถามว่า นายสีหศักดิ์ ตอบรับช่วงไหนเพราะวันที่ 23 ธันวาคม ยังบอกว่านายกรัฐมนตรียังไม่เคยจีบเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน กล่าวว่า คำว่าจีบถ้าตนยังไม่พูดอย่างเป็นทางการ มันก็คนรู้จักกัน ถ้าจะจีบก็ต้องตั้งแต่ชวนร่วมรัฐบาลแล้ว ก็มีการพูดกันไว้ “พี่พร้อมไหมมาช่วยกันหน่อย ถ้าเกิดอีกสองท่านไม่สะดวกก็พี่ ถามว่าแบบนี้คือการจีบไหม” ซึ่งนายสีหศักดิ์ ก็พูดกับสาธารณะตลอดเวลา ว่าท่านชอบงานด้านต่างประเทศ ให้ท่านทำตรงนั้นท่านก็ทำได้ ตอนนี้คนที่ชอบหรือไม่ชอบการเมือง คนที่มีตำแหน่งหรือสถานะทางการเมือง ต่อให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ที่ปรึกษา เลขาฯ ที่มีการแต่งตั้ง ถ้าจะไปกรอกอาชีพตอนตรวจคนเข้าเมือง ก็จะบอกว่า เป็นนักการเมือง เพราะไม่มีอาชีพรัฐมนตรี นายสีหศักดิ์ก็มีความคุ้นเคยมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากท่านขึ้นเวทีเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ต่อสมาชิกพรรคภูมิใจไทยถือว่าพูดต่อหน้าประชาชนทั้งประเทศ ตนก็ว่าท่านมีความคุ้นเคยขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนมีความมั่นใจ
ส่วนนายสีหศักดิ์ตอบรับมาเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า บางทีคนระดับนี้ใช้ญาณคุยกัน ขณะที่สาเหตุที่นำเสนอนายสีหศักดิ์ เพราะบทบาทเกี่ยวกับปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และต้องเจรจากับหลายประเทศในช่วงนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างเกี่ยวกันหมด และยอมรับเป็นคนมีประสบการณ์ และตนก็ไม่สามารถชี้แจงคนเดียวได้
ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้า คนในพรรคจะมีโอกาสเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนมีโอกาสหมด เที่ยวนี้เป็นการปรับสถานะของพรรคอีกรอบหนึ่ง มันก็ยังมีข้อจำกัดต่างๆ ซึ่งหลังจากผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้ไป ถ้าเราได้รับความไว้วางใจจากประชาชน และเราเห็นสถานะของพรรคหลังการเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 ก็จะมีความชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ต้องฟังเสียงประชาชนเพราะเขาคือผู้ตัดสิน อย่ามาถามตน ตนตัดสินอะไรไม่ได้ เป็นอย่างไรก็ทำตามเสียงของประชาชน
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงนโยบายที่ประกาศว่าพรรคภูมิใจไทยไม่มีเทา นายอนุทินจึงหันมาตอบว่า พรรคไหนก็ไม่มีเทาทั้งนั้น ก่อนจะยิ้มและเดินขึ้นไปทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าทันที