"เดชอิศม์" เปิดใจ ขอเว้นวรรคการเมือง ไม่สังกัดพรรคไหน เพื่อประกาศไม่เห็นด้วยกับการเมืองบิดเบี้ยว หลังตีจาก "พรรคประชาธิปัตย์" จนมีกระแสซบ "พรรคกล้าธรรม"

วันที่ 24 ธ.ค. 68 นายเดชอิศม์ ขาวทอง อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีต สส.สงขลา เขต 5 ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า เปิดใจนายกชาย

"ผมขอหยุด เพื่อประกาศให้คนไทยเห็นว่าผมไม่เห็นด้วยกับระบบการเมืองที่บิดเบี้ยวในขณะนี้"

ก่อนอื่น ก็ขอแสดงความเสียใจกับพี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วมหาดใหญ่ ถ้านายกรัฐมนตรีมีความสามารถพี่น้องผมจะไม่ตายมากขนาดนี้ เนื่องจากว่าทั้งที่มีอำนาจในเรื่องการจัดการอยู่เต็มที่ แต่ยังตัดสินใจ ด้วยเหตุผลที่เอาการเมืองมาเกี่ยวข้อง

วันนี้ขอทุกท่าน ช่วยรับฟังผมอย่างเป็นธรรม เปิดใจฟังที่ผมคิด ที่ผมพูด และดูสิ่งที่ผมทำ 

ภูมิหลังผมเป็นพ่อแม่เป็นคนสงขลา+พัทลุง เกิดรัตภูมิ เรียนจบที่สงขลา จบปริญญาตรี 2 ใบจากรามคำแหง และปริญญาโท nida และกำลังจบปริญญาโท สาขาการจัดการสิ่งแวดล้อม จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

เส้นทางการเมือง เริ่มจะเป็น สจ.

ตั้งแต่สมัยที่เริ่มมีการกระจายอำนาจ ซึ่งในขณะนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัด จะเป็นนายก อบจ. โดยตำแหน่ง และต่อมา นายก อบจ. มาจากโหวตจากสภา ผมได้เป็นนายก อบจ. สงขลา 2 สมัย เป็นประธานสมาพันธ์ อบจ. ภาคใต้ ตั้งแต่อายุ 32 ปี

ผมเป็นนายก อบจ. ที่ไม่เกิดเรื่องด่างพร้อย ข้าราชการไม่ติดคุก แต่หลังจากสมัยผม คนที่เป็นนายก อบจ. ติดคุก มีเรื่องเสื่อมเสียมากมาย ข้าราชการติดคุกหลายคน นี่คือเรื่องจริง

ชีวิตการเมือง สส. เริ่มในปี 47-48 ผมเสนอตัวลง สส. พรรค ปชป. สมัยนั้นมีการคัดเลือก ส่งตัวแทนผู้ลงสมัคร โดยใช้โพลพรรค ในสมัยแรกมีการกีดกันผม โดยไม่ทำโพล กีดกันผมทุกอย่าง ผมจึงไปลงไทยรักไทย ได้ 33,039 คะแนนเป็นที่ 2 

...

เมื่อตำแหน่ง สส. ว่าง ผมยังอยากอยู่ ปชป. ผมจึงพบคุณอภิสิทธิ์ ก็มีการทำโพล และผมชนะ ได้ถูกส่งในนามพรรค

การหาเสียง ผมไม่ใช้เงินพรรคเลย ผมได้ 55,000 คะแนน มากสุดในภาคใต้ และ ปชป. สงขลา ได้ 3 คน 

หลังเลือกตั้ง คุณอภิสิทธิ์ลาออก ต่อมา คกก. บริหารบางท่านลาออก มีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคใหม่ ได้กรรมการบริหารพรรคใหม่ เลขาเฉลิมชัยและคนอื่นๆ ก็สนับสนุนให้ผมสมัครเป็นรองหัวหน้าพรรคดูแลภาคใต้ ซึ่งมีการมาขอให้ถอนตัว ด้วยเห็นว่าผมอาวุโสน้อย แต่ในที่สุด ผลการเลือกตั้ง ผมชนะขาดลอย

ผลงานผมในฐานะรองฯ ภาคใต้ ดูแลการเลือกตั้งซ่อม ปรากฏว่า เราชนะทั้ง 2 เขตที่เลือกตั้งซ่อม และในการเลือกตั้ง ปี 66 ปชป. ได้ 17 ที่นั่ง ภายใต้การทำงานที่ผมเป็นรองฯ ดูแลภาคใต้

ต่อมาคุณจุรินทร์ลาออก มีการเลือก คกก.บใหม่ มีความไม่ชอบมาพากล โดยมีการล้มการประชุม 2 ครั้ง สุดท้ายผมได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรค สมัยผมเป็นเลขา มี สมช. พรรคเพิ่มอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาล ของ ปชป. พรรคมีแนวทางที่ชัดเจน คือจะใช้มติพรรคเสมอ ทุกอย่างก็เป็นไปตาม มติพรรค

เหตุการณ์ที่เล่ามาทั้งหมด มีคนพยายามโจมตี กล่าวหาว่า ผมทำให้พรรคตกต่ำ ผมจึงถามว่า ผมมาทำงานแล้วชัดเจนว่าพรรคดีขึ้น และทุกอย่าง อยู่ในกติกา ทำตามมติพรรคตลอด ผมทำให้พรรคตกต่ำตรงไหน

ผลงานตอนผมเป็น รมช.สธ. 

ผมพบว่า คนไทยป่วย เป็นโรค Ncd  มาก ผมจับเรื่องนี้ 

มีการร้องทุกข์ รพ. สร้างไม่เสร็จจำนวนมาก ผมมาทำให้ได้สร้างต่อได้หมด มีการขยาย รพ. ที่สงขลา 4 มุมเมือง สิงหนคร สะเดา รัตภูมิ หาดใหญ่ 

ตอนผมเป็น มท3 ผมประกาศ ที่ดินหลวงต้องเป็นของหลวง ที่ดินราษฎรต้องเป็นของราษฎร และเจอกรณีที่ดินเขากระโดงที่ผู้มีอิทธิพลมาบุกรุก ผมดำเนินการเรื่องนี้ เพื่อเอาที่หลวงคืน แต่เรื่องสะดุด เมื่อผมพ้นวาระ เรื่อง ที่ดินราษฎรใช้ประโยชน์ทำให้ถูกต้องให้ส่งมอบให้รุ่นลูกหลานได้

เรื่อง อปท. กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น แก้ไขอำนาจหน้าที่ให้ทำงานได้ และมีเรื่อง มีงบกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ปรากฏว่า มีการจัดสรรโดยหวังผลทางการเมือง จัดสรรไม่เป็นธรรม ต่อมาเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองหลายๆ เรื่องจึงทำไม่จบ

การเมืองบิดเบี้ยวได้เกิดขึ้นหลายอย่างในช่วงนี้ เช่น

- ฮุนเซนล้มรัฐบาลได้

- ข่าวความไม่ชอบมาพากลในศาลรัฐธรรมนูญ

- พรรคประชาชน มีเสียงข้างมากแต่ไปยกมือให้ภูมิใจไทย ที่มีเศษซากน้อย โดยมีเงื่อนไขที่ไม่เป็นประโยชน์ของประเทศชาติ

- ข่าวการฮั้ว สว. ซึ่งจะส่งผลร้ายแรง เช่นการตั้งองค์กรอิสระ ถ้า สว. ทำงานไม่โปร่งใส

- ข่าวซื้อ สส. เพื่อให้เกิดการย้ายพรรค

- มีการออกข่าวโจมตีผม สร้างความแตกแยก

ผมต้องสู้กับเรื่องเหล่านี้ แต่ผมสู้ตามลำพัง ก็มีกำลังไม่พอ ผมเชื่อว่าประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง

ผมจึงขอหยุด ไม่ลงสมัครเลือกตั้ง ไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด เพื่อประกาศให้คนไทยเห็นว่าผมไม่เห็นด้วยกับระบบการเมืองบิดเบี้ยวในขณะนี้




ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก นายเดชอิศม์ ขาวทอง นายกชาย