“สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” ยันจุดยืนพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ร่วมรัฐบาล “กล้าธรรม” ย้ำเป็นความเห็นประชาชน ผ่านแคมเปญ “ประเทศไทยไม่ทน” เรียกร้องทุกพรรคมีจุดยืนที่ชัดเจน
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 24 ธันวาคม 2568 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประกาศจุดยืนไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรมบนเวทีดีเบต ว่า เป็นจุดยืนทางการเมือง ที่ไม่ใช่เฉพาะของพรรค ปชป. เท่านั้น แต่เกิดจากการรับฟังเสียงประชาชนผ่านแคมเปญ “ประเทศไทยไม่ทน” ที่ประชาชนบอกว่า ไม่สามารถให้ร่วมกับการเมืองสีเทา และการทุจริตได้ การประกาศจุดยืนนี้ของนายอภิสิทธิ์เป็นความกล้า และมีเสียงวิจารณ์ว่า ที่สุดแล้ว ก็เหมือนเดิมว่าเมื่อหัวหน้าพรรคประกาศจุดยืนไปแล้ว กก.บห.พรรคก็มีมติ แล้วสุดท้าย หัวหน้าพรรคก็ลาออก แต่ครั้งนี้ท่านขอให้ กก.บห. มีมติผูกพันไปถึงหลังเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ จะอยู่จนครบวาระ เพื่อทำการเมืองต่อไป ซึ่งการประกาศของนายอภิสิทธิ์ ไม่มีผลประโยชน์ทางการเมืองใดๆ แค่ต้องทำการเมืองสุจริต และขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองมีจุดยืนที่ชัดเจนเช่นกัน ส่วนที่มีการตีความว่า การไม่เอาพรรคกล้าธรรม แล้วจะไปจับมือพรรคส้ม พรรคแดง ถือเป็นยุทธศาสตร์การเมืองที่มุ่งโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ บิดเบือนข้อเท็จจริง ตนยืนยันการประกาศของหัวหน้าพรรค ปชป. เป็นมติพรรคเปลี่ยนแปลงไม่ได้
ต่อข้อถามว่าทำไมเลือกประกาศไม่จับมือกับพรรคกล้าธรรม แต่บางพรรคที่มีประวัติไม่โปร่งใสกลับไม่ประกาศ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ขอให้ดูต่อไป มีเป็นซีรีย์แน่นอน เมื่อถามถึงจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ต่อเรื่องกฎหมายอาญา มาตรา 112 นายสาทิตย์ กล่าวว่า ยังคงมีจุดยืน ซึ่งประเด็นไม่ได้อยู่ที่ตัวบทกฎหมาย แต่อยู่ที่การบังคับใช้
...
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนประกาศจุดยืนจะแก้ไขมาตรา 112 แสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมจับมือด้วยได้หรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า การจับมือกับใครยังอีกนาน และหัวหน้าพรรคประชาชน ไม่ได้บอกว่า จะแก้มาตรา 112 แต่มุ่งเน้นจะนิรโทษกรรมให้ผู้ต้องหาในคดี มาตรา 112 ซึ่งตอนนี้กฎหมายฉบับนี้ ถูกแช่แข็งอยู่ จึงขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่ จะมีมติให้เดินหน้ากฎหมายฉบับนี้หรือไม่ ส่วนการโจมตีพรรคในเรื่องอื่นๆ ยืนยันว่าพรรคพร้อมชี้แจงทุกเรื่อง