“ประเสริฐ” ให้ปากคำ DSI ปม MOU ดีอี-บ.สิงคโปร์ โยงคดีพิเศษสแกนม่านตา เชื่อว่าเป็นการเมือง ขณะรายงานข่าวปัดรู้จักกลุ่มทุน โยน “ธรรมนัส” ประสานนำกลุ่มทุนจากสิงคโปร์เข้ามาทำ MOU

วันที่ 24 ธ.ค. 2568 มีรายงานว่า เวลา 14.30 น.วานนี้ (23 ธ.ค.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เข้าให้ปากคำกับคณะพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ของกระทรวงดีอี กับบริษัทสิงคโปร์ ซึ่งเชื่อมโยงคดีพิเศษสแกนม่านตาคนไทย 1.2 ล้านคน แลกเหรียญดิจิทัล โดยภายหลังการให้ปากคำ นายประเสริฐ ระบุกับผู้สื่อข่าว โดยเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นการเมือง

“ขออนุญาตว่าข้อมูลที่ให้ดีเอสไอถือเป็นความลับ ขอไม่เปิดเผย ส่วนจะเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่นั้น ก็มองได้” นายประเสริฐ กล่าว

มีรายงานว่า นายประเสริฐ ได้ให้การถึงฝ่ายการเมือง คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในขณะนั้นที่ประสานนำกลุ่มทุนจากสิงคโปร์เข้ามาทำ MOU โดยนายประเสริฐ ในฐานะรัฐมนตรีดีอี พิจารณาแล้วเห็นว่า สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลขณะนั้น จึงได้มอบให้ข้าราชการประจำไปดำเนินการตามขั้นตอน และได้รับการยืนยันว่า ได้หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วว่า สามารถดำเนินการได้ จึงเห็นชอบให้ปลัดกระทรวงดีอีไปลงนาม

ซึ่งในวันลงนามมีบุคคลที่ปรากฏตามภาพตามสื่อ รู้จักเพียง ร.อ.ธรรมนัส และ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เท่านั้น นายประเสริฐ ไปในฐานะพยาน ไม่รู้จักกับฝ่ายกลุ่มทุนสิงคโปร์ และไม่รู้รายละเอียดที่กำหนดไว้ใน MOU แต่อย่างใด