ดีเบตแคนดิเดตนายกฯ ปม “กาสิโนถูกกฎหมาย” 7 พรรคค้านสุดตัว ด้าน “ยศชนัน” ขอแก้ต่างให้เพื่อไทย เป้าหมายที่ผ่านมามุ่งดึงเม็ดเงิน แต่ต้องฟังเสียงประชาชน เจอสวน ไทยดึงเม็ดเงินได้โดยไม่ต้องมีกาสิโน


เมื่อเวลา 19.26 น. วันที่ 23 ธันวาคม 2568 เวทีดีเบตของไทยรัฐเข้าสู่คำถามว่า ถ้าท่านเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคการเมืองของท่านจะผลักดันกาสิโนถูกกฎหมายหรือไม่ โดย กาย พงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ เป็นผู้ดำเนินรายการ ขอให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มาร่วมดีเบตยกมือขึ้น หากพรรคใดมีนโยบายกาสิโนถูกกฎหมาย โดยพบว่าไม่มีใครยกมือแม้แต่คนเดียว จากนั้น นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวขึ้นว่า คำถามนี้เซนซิทีฟกับพรรคเพื่อไทยพอสมควร ขอชี้แจงว่า เรื่องเกี่ยวกับกาสิโนในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) ที่เคยมีมา ตรงนั้นเป็นจุดหนึ่งที่เราพยายามจะดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามา แต่ไม่ได้มีความจำเป็นว่า ต้องเป็นโปรเจกต์นี้ โครงการนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องฟังเสียงประชาชน และดูบริบทประเทศ ซึ่งเรามั่นใจว่าคะแนนเสียงของประชาชนไม่มีเทาแน่นอน เราเปิดใจรับฟัง และครั้งใหม่สิ่งสำคัญคือเราสามารถหาตัวโครงการที่จะดึงเม็ดเงินเข้ามา เป็นจุดยืนว่าต้องเป็นโครงการที่ประชาชนยอมรับได้ พยายามสร้างให้โอกาสใหม่ๆ ได้

“ผมไม่อยากนำเรื่องนี้ไปเกี่ยวกับเรื่องทุนเทา-ไม่เทา เพราะว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความเซนซิทีฟในเรื่องนี้ พี่น้องประชาชนอยากที่จะได้สิ่งที่ดีที่สุดกับประเทศ ตรงนี้เรารับฟังเสียงประชาชน และเชื่อว่าเสียงประชาชนเนี่ยไม่มีเทาแน่นอนครับ”

จากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การท่องเที่ยวที่เรามีอยู่ก็พอแล้ว ในระหว่างนั้น นายยศชนัน กล่าวแทรกขึ้นว่า “เราไม่ได้บอกว่าเราเอานะครับ ผมพูดชัดๆ สิ่งที่เราต้องการทำก็คือดึงเม็ดเงินเข้ามาครับ” ขณะนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กล่าวขึ้นว่า “ผมมั่นใจว่าประเทศไทยสามารถดึงเม็ดเงินได้โดยไม่ต้องมีกาสิโน”

...

ขณะที่นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ ขอย้ำและฝากถึงประชาชนให้คิด ว่า ปัญหาใหญ่ที่ไทยเผชิญอยู่คือขบวนการฟอกเงินผ่านธุรกิจสแกมเมอร์ การที่เราจะเสี่ยงเพิ่มควรระมัดระวัง การมีกาสิโน และการมีกฎหมายศูนย์กลางทางการเงิน การมี MOU กับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งออกมาแล้ว แผลงออกไปเป็น Stablecoin ได้ ทั้งหมดนี้ ในระหว่างที่ระบบการกำกับควบคุม ระบบธรรมาภิบาลของประเทศเรายังไม่พัฒนาและยังไม่มีกฎกติกาที่สมบูรณ์ สิ่งนี้จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในเรื่องการฟอกเงินให้กับสแกมเมอร์

ทางด้าน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า สิ่งที่ตนเองอยากได้ความชัดเจนคล้ายกับ นายธีระชัย กล่าว เรื่องนโยบายศูนย์กลางทางการเงิน เป็นสิ่งที่ตนเองมีความเป็นห่วงอย่างยิ่ง สิ่งที่จำเป็นคือการบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพ เห็นเส้นทางการเงิน ระบบการทลายเครือข่ายสแกมเมอร์ กับทลายเส้นทางการเงิน ทลายเครือข่ายอาชญากร สร้างความร่วมมือกับต่างประเทศ โดยเราจะสกัดเส้นทางทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องบูรณาการข้อมูล นอกจากบัญชีเงินฝากในธนาคาร ตลาดทุน ที่ดิน รถ สินทรัพย์ทุกอย่างที่มีการโยกย้าย รวมถึง Exchange และคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ซึ่งโมเดลประเทศที่ประสบความสำเร็จคือสิงคโปร์ เขาเป็นศูนย์กลางทางการเงิน มีระบบตรวจสอบ บังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ใช่ออกกฎหมายเพื่อปลดล็อก ยกเว้นบางระเบียบ ที่ปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) และหน่วยงานถืออยู่ ถ้าปลดล็อกประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางฟอกเงิน มากกว่ากลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินหรือไม่

ต่อมา นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองพูดมานานแล้วว่าไทยไม่มีความพร้อม แค่สแกมเมอร์ยังมีปัญหา ถ้าเอากาสิโนหรือการพนันถูกกฎหมายมาไว้ในประเทศนี้ ลูกหลานไทยอยู่ไม่ได้หรอก วันนี้สิ่งสำคัญที่สุด ถ้าจะทำอยากให้ลงทุนการศึกษา เรื่องการสร้างทุนมนุษย์ ยืนยันว่าไม่เอาเด็ดขาดในเรื่องกาสิโนถูกกฎหมาย

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่ออีกครั้งว่า พรรคไทยสร้างไทยไม่เอาแน่ เราต่อต้านมาแต่ต้น เพราะพ่วงมาด้วยพนันออนไลน์ที่จะถูกกฎหมาย ที่ผ่านมามีเคสสะเทือนขวัญ เด็กอายุ 15 ปีเป็นหนี้พนันออนไลน์ 5 แสนบาท ครอบครัวจ่ายไปแล้ว 2 แสนกว่าบาท ที่เหลือเขาขู่เอาชีวิตพ่อแม่ สุดท้ายเด็กต้องจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย ในฐานะแม่ตนเองรับไม่ได้ ถ้าทำเหมือนสิงคโปร์ตนสนับสนุน ซึ่งโชคดีที่เปลี่ยนรัฐบาลก่อน เพราะการมีสิ่งเหล่านี้เอื้อให้ไทยเป็นศูนย์กลางฟอกเงิน ทำร้ายเศรษฐกิจไทย เงินขาวจะเข้ามาหรือ ถ้าเราเป็นศูนย์กลางเงินเทา ที่ผ่านมารัฐบาลทำอะไร นิ่งเฉยอยู่ถึงทุกวันนี้ พร้อมย้ำว่าการล้างคนโกงต้องไม่เกรงใจใคร เพราะคนที่ตายคือประชาชนทุกคนและนักธุรกิจ

ส่วน พลเอกรังษี กิติญาณทรัพย์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กล่าวสั้นๆ ว่า กาสิโนคู่กับพนันออนไลน์ และสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ก็ฝังตัวอยู่ในนั้น เราเห็นตัวอย่างแล้วจากกัมพูชาแล้วว่าไม่ควรจะมี

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กล่าวเป็นคนสุดท้ายในประเด็นนี้ว่า ปัญหาที่เกิดคือผู้มีอำนาจหน้าที่ไม่ทำตามอำนาจหน้าที่ และบังคับใช้กฎหมาย กลับไปเข้าพวกกับเขา สังคมเน่าเฟะ คนแบบนี้ต้องจัดการเด็ดขาด โทษต้องรุนแรง ถ้าไม่ปฏิบัติ ไม่บังคับใช้กฎหมาย ก็จะเป็นแบบนี้ คนที่มีอำนาจหน้าที่ต้องทำให้ถูกต้องและเด็ดขาด และต้องมีความรับผิดคนเหล่านี้ให้เกิดขึ้น.