กกต. ไฟเขียว “อินฟลูเอนเซอร์-ยูทูปเปอร์-คอนเทนต์ครีเอเตอร์-สื่อออนไลน์” สมัคร สส. ไม่เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามถือหุ้นสื่อ เตือนผู้สมัครรับเลือกตั้ง ระวังเรื่องการปราศรัยใส่ร้ายด้วยความเท็จ


เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23 ธันวาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการ กกต. ประชุมชี้แจงสื่อมวลชนถึงข้อควรระวังในการรายงานข่าวการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2569 ว่า การหาเสียงที่ไม่ผิดกฎหมาย คือ การขายความคิด การขายนโยบาย และการขายเครดิต โดยไม่มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้องจะถือว่าเป็นการหาเสียงที่แท้จริง และห้ามสื่อมวลชนทำโพลโดยมีเจตนาไม่สุจริต มีลักษณะชี้นำหรือมีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนน มีความผิดตามมาตรา 72 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 รวมทั้งห้ามมีการเปิดเผยผลโพลในระหว่างเวลา 7 วันก่อนวันเลือกตั้งถึงเวลาปิดการลงคะแนน

ส่วนการทำลายเครื่องมือและกระบวนการในการจัดการเลือกตั้ง เช่น การทำให้บัตรเสียหาย รวมถึงการทำลายเจตนารมณ์การเลือกตั้งโดยตรงและโดยลับ ทำให้การเลือกตั้งไม่มีเสรีภาพ มีการจ้างให้สิ่งของ ข่มขู่ หรือการพนันจัดการเลือกตั้ง ถือเป็นฐานความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง กกต.จะต้องมีการออกกฎระเบียบและรายละเอียดของฐานความผิดต่อไป

ร.ต.อ.ชนินทร์ ยังได้กล่าวถึงกรณีสัญญาว่าจะให้ จัดการเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ว่า ขอให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งระมัดระวังเรื่องการทำบุญใส่ซอง หาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพรื่นเริง รวมถึงห้ามจูงใจว่าจะจัดเลี้ยง หรือรับจะจัดเลี้ยงให้แก่ผู้ใด ส่วนที่เป็นปัญหามากคือการปราศรัยใส่ร้ายด้วยความเท็จ สื่อมวลชนต้องระมัดระวัง อย่ากลายเป็นเครื่องมือของพรรคการเมือง พร้อมทั้งเน้นย้ำลักษณะต้องห้ามทั้งกรณีติดยาเสพติดให้โทษ ล้มละลายหรือเคยล้มละลายทุจริต เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน

...

ส่วนกรณีผู้ประกอบวิชาชีพ เช่น อินฟลูเอนเซอร์ ยูทูปเปอร์ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ สื่อออนไลน์ ที่มีการทำคอนเทนต์ในลักษณะเอนเตอร์เทนต์เมนต์หรือสื่อสารสาธารณะเผยแพร่วิเคราะห์ข่าวสารทางการเมือง โดยได้รับค่าตอบแทนเป็นรายได้จากบริษัทหรือผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน ถือเป็นเพียงผู้ใช้สื่อ ไม่เข้าข่ายพฤติการณ์เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน อันเป็นลักษณะต้องห้ามที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ลงสมัครได้.