เสียงสะท้อนจากผู้อ่านไทยรัฐกว่า 1.2 หมื่นคน เทคะแนนอยากฟังวิสัยทัศน์ "ณัฐพงษ์ - ยศชนัน" โดยผู้คนส่วนใหญ่กังวลปัญหาปากท้องเป็นอันดับแรก ตามด้วยความมั่นคงชายแดน และทุนสีเทา จับตาศึกดีเบตเลือกตั้ง ร้อนแรงแน่นอน
ไทยรัฐออนไลน์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นในหัวข้อ "เสียงสะท้อนก่อนเลือกตั้ง คุณอยากเห็นอะไรในเวทีดีเบตไทยรัฐ?" ซึ่งทำการสำรวจระหว่างวันที่ 17-22 ธันวาคม 2568 มีผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามสูงสุดถึง 12,053 คน โดยผลสำรวจสะท้อนความต้องการของประชาชนที่น่าสนใจ ดังนี้
"เท้ง" มาแรง "ยศชนัน" ไล่บี้ ติด Top 2 ที่คนอยากเห็นบนเวที
เมื่อถามว่า "อยากดูใครในเวทีดีเบต ของไทยรัฐทีวี" ผลปรากฏว่า ประชาชนเทคะแนนให้ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ มาเป็นอันดับ 1 ที่ 22.99 เปอร์เซ็นต์ ตามมาติดๆ ด้วย นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กันที่ 18.25 เปอร์เซ็นต์
...
ส่วนอันดับรองลงมาได้แก่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 13.39 เปอร์เซ็นต์, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 12.12 เปอร์เซ็นต์ และพลเอก รังษี กิติญาณทรัพย์ 11.26 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ในขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล และ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้คะแนนความสนใจอยู่ที่ 10.94 เปอร์เซ็นต์ และ 4.61 เปอร์เซ็นต์
โจทย์หินรัฐบาลใหม่ "ปากท้อง" สำคัญกว่า "การเมือง"
ในส่วนของเนื้อหาที่ประชาชนอยากฟังและอยากให้แก้ไข พบว่าเรื่อง "เศรษฐกิจ" ยังคงเป็นปัญหาอันดับหนึ่งที่คนไทยกังวลสูงสุด
37.09 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่า อยากฟังการดีเบตเรื่อง "ปัญหาปากท้องและการแก้ไขเศรษฐกิจ" มากที่สุด รองลงมาคือเรื่องทุนสีเทาและสแกมเมอร์ 25.76 เปอร์เซ็นต์ และปัญหาความมั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา 21.54 เปอร์เซ็นต์ โดยมีเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ที่ตัวเลข 15.61 เปอร์เซ็นต์
เมื่อเจาะลึกลงไปว่า "อยากให้รัฐบาลใหม่แก้ไขอะไรเป็นอันดับแรก" ตัวเลขยิ่งพุ่งสูงขึ้น โดยประชาชนกว่า 55.04 เปอร์เซ็นต์ ฟันธงเลือกปัญหาปากท้อง มาเป็นอันดับ 1 ทิ้งห่างเรื่องการเมืองอย่าง "การแก้ไขรัฐธรรมนูญ" ที่มีความต้องการเร่งด่วนเพียง 9.86 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ส่วนเรื่องปัญหาความมั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา และทุนสีเทา-สแกมเมอร์ อยู่ที่ 17.92 เปอร์เซ็นต์ และ 17.19 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ
เสียงสะท้อนจาก "คนรุ่นใหญ่" ในกรุงเทพฯ
สำหรับกลุ่มตัวอย่างในผลสำรวจครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยทำงานและผู้สูงอายุ โดยเป็นผู้ที่มีอายุระหว่าง 46-59 ปี มากที่สุด 30.25 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป 25.76 เปอร์เซ็นต์ แต่ในกลุ่มที่มีอายุระหว่าง 36-45 ปี, 26-35 ปี และ 18-25 ปี มีสัดส่วนไม่ห่างกันมากนักที่ตัวเลข 17.74 เปอร์เซ็นต์ 14.40 เปอร์เซ็นต์ และ 11.86 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ
ทั้งนี้ เสียงสะท้อนจากการตอบแบบสำรวจครั้งนี้มาจากกรุงเทพฯ และปริมณฑลมากที่สุดด้วยตัวเลข 39.88 เปอร์เซ็นต์ ภาคกลาง (รวมภาคตะวันออก และภาคตะวันตก) 18.35 เปอร์เซ็นต์ ภาคอีสาน 17.87 เปอร์เซ็นต์ ภาคเหนือ 12.10 เปอร์เซ็นต์ และภาคใต้ 11.80 เปอร์เซ็นต์