จับตาประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยพิเศษ ถกปมชายแดนไทย-กัมพูชา “สีหศักดิ์” ยัน 3 เงื่อนไข จี้กัมพูชาหยุดยิงก่อน ชี้ไทยปรารถนาเห็นสันติภาพ แต่ต้องมาพร้อมความปลอดภัยของประชาชน
วันที่ 22 ธ.ค.68 เวลา 11.00 น. ตามเวลามาเลเซีย ซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชม. นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางถึงโรงแรมแกรนด์ไฮแอท กัวลาลัมเปอร์ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยพิเศษ หารือถึงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา โดยฝ่ายไทยมี พล.อ.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว รองเสนาธิการทหาร เป็นผู้แทนของกองทัพไทย ร่วมคณะมาด้วย
สำหรับการประชุมจะเป็นไปตามแบบพิธีการของอาเซียน ตามเวลาเปิดการประชุมในเวลา 12.00 น. (เวลามาเลเซีย) จะมีการถ่ายภาพหมู่ ซึ่งจะมีผู้เข้าร่วมประชุมจากสมาชิก 11 ประเทศ ยกเว้นประเทศเมียนมา ที่จะประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ส่วนเวียดนามส่งเจ้าหน้าที่อาวุโสเข้าร่วมประชุมแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
จากนั้น นายโมฮามัด ฮาซัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน จะกล่าวเปิดการประชุม และคณะผู้สังเกตการณ์ AOT รายงานการทำหน้าที่ของคณะผู้สังเกตการณ์ AOT ในห้วงที่ผ่านมา ก่อนจะเปิดเวทีให้สมาชิกได้แสดงท่าที โดยเริ่มจากประเทศคู่กรณี คือ ไทย และกัมพูชา แต่จะจัดลำดับการพูดตามตัวอักษร ดังนั้นกัมพูชาจึงเป็นฝ่ายพูดก่อน ตามด้วยไทย และฟิลิปปินส์ ในฐานะประธานอาเซียนปีต่อไป แล้วจึงจะเริ่มให้ประเทศสมาชิกอาเซียนเริ่มพูดตามตัวอักษรอีกครั้ง จนปิดการประชุม ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. ตั้งแต่เวลา 12.00 -13.30 น. โดยจะไม่มีแถลงการณ์หรือผลการประชุมอย่างเป็นทางการ แต่อาจมีถ้อยแถลงของประธาน คือ มาเลเซีย
...
ดังนั้น สาระสำคัญของการประชุมวันนี้จะต้องจับตาดูท่าทีของกัมพูชาว่าจะดำเนินการอย่างไร ต่อข้อเสนอของไทย ซึ่งไทยจะแสดงจุดยืนต่อสถานการณ์ที่ผ่านมา ไทยยังเน้นย้ำในหลักการ 3 ข้อคือ
1. ฝ่ายกัมพูชาจะต้องประกาศหยุดยิงก่อน
2. การหยุดยิงต้องเกิดขึ้นจริงและต่อเนื่อง โดยมีผู้สังเกตการณ์
3. กัมพูชาต้องร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างจริงจังและจริงใจ
โดยสำหรับฝ่ายไทย การตัดสินใจในการหยุดยิงจะขึ้นอยู่กับการประเมินสถานการณ์ของกองทัพตามหลักการที่ยืนยันไว้ว่า จะยึดมั่นในผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง ปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน โดยไทยปรารถนาที่จะเห็นสันติภาพ แต่สันติภาพนั้นต้องมาพร้อมความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนและต้องเป็นสันติภาพที่ยั่งยืน
ย้อนกลับไปการสู้รบเมื่อ 24-28 กรกฎาคม ไทยและกัมพูชา ตกลงหยุดยิงภายในเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม จากนั้นทั้งสองประเทศได้ลงนามในปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา เมื่อ 26 ตุลาคม ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 ที่กัวลาลัมเปอร์ โดยมีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เป็นสักขีพยาน
อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งปะทุขึ้นอีกครั้งเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม นำมาสู่การสู้รบกันอย่างหนักเช้าตรู่วันที่ 8 ธันวาคมเป็นต้นมา ซึ่งถ้านับถึงวันนี้ ก็เป็นเวลา 14 วันแล้ว