“ไชยชนก” ชี้ เป็นหน้าที่ “ดีเอสไอ” สอบสวน หลังพบข้อมูลนักการเมือง 1-2 คน เอี่ยว MOU กระทรวงดีอี-บ.สิงคโปร์ สแกนม่านตา ด้าน รมว.ยุติธรรม ชี้น่าห่วงกระทบ ปชช. 1.2 ล้านคน
วันที่ 22 ธันวาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เรียกสอบสวนกรณี MOU ระหว่างกระทรวงดีอี กับบริษัทไพรม์ ออพ พอร์ทูนิตี้ ฟันด์ วิซีซี จากประเทศสิงคโปร์ มีการสาวไปถึงระดับนักการเมืองหรือไม่ว่า ต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ และได้เรียกอดีตปลัดกระทรวงดีอี ซึ่งจากคำให้การของอดีตปลัดฯ ก็จะมีการเรียกนายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี ก็ต้องรอดูผลการวินิจฉัย ซึ่งหน้าที่ของตนเบื้องต้น คือการรวบรวมข้อมูลที่ตรวจสอบพบในกระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ตนกำกับดูแล และส่งให้กับทางดีเอสไอ โดยมีเอกสารสำคัญหลายส่วนที่มีข้อน่าสงสัย แต่การวินิจฉัยก็เป็นหน้าที่ของดีเอสไอ
ส่วนข้อมูลที่ดีเอสไอตรวจสอบ เชื่อมโยงไปถึงนักการเมืองหรือไม่ นายไชยชนก กล่าวว่า ก็พบเอกสารที่มีลายเซ็น ซึ่งขณะนี้ มีความเชื่อมโยงเพียง 1-2 คน
...
ปมสแกนม่านตาน่าห่วง กระทบ ปชช. 1.2 ล้านคน
ด้านพล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีดีเอสไอ เตรียมเรียก นายประเสริฐ สอบกรณี MOU ระหว่างกระทรวงดีอี กับบริษัทไพรม์ ออพ พอร์ทูนิตี้ ฟันด์ วิซีซี จากประเทศสิงคโปร์ หลังดีเอสไอเข้าสอบปากคำอดีตปลัดกระทรวงดีอี พบข้อมูลเชื่อมโยงถึงระดับนโยบายว่า รายละเอียดคงต้องถามดีเอสไอ แต่ส่วนตัวไม่ทราบ เพราะได้ให้นโยบาย
ส่วนจะเป็นการดิสเครดิตทางการเมืองกันหรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า ไม่ทราบ ในเรื่องรูปคดี รวมถึงสำนวน ต้องถามดีเอสไอ ทั้งนี้ ตนได้ให้นโยบายว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง เพราะมีประชาชนเกี่ยวข้องมากกว่า 1.2 ล้านคน ในเรื่องการสแกนม่านตา และเราไม่ทราบว่าข้อมูลตรงนี้จะถูกเอาไปทำอะไรบ้าง