“อนุทิน” เป็นประธานรับร่าง 2 ทหารกล้า บอกสถานการณ์ชายแดนยึดพื้นที่เป้าหมายเกือบหมดแล้ว ยืนยันดูแลสิทธิประโยชน์ผู้เสียชีวิตเต็มที่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ธ.ค. 2568 ที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน จ.สุรินทร์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีส่งศพทหารกล้า จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน และพลทหารภานุพัฒน์ เสาร์สา นักรบสมรภูมิเนิน 350
โดยบรรยากาศภายในพิธีเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของครอบครัวทหารกล้าทั้งสองครอบครัว รวมทั้งมีประชาชนชาวจ.สุรินทร์ ยืนเข้าแถวโบกธงชาติไทยบริเวณถนนทางออกของโรงพยาบาลฯ เพื่อร่วมส่งทหารกล้าทั้งสองนาย กลับภูมิลำเนาเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
จากนั้นเวลา 11.05 น. นายอนุทิน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กราบทหารกล้าด้วยสำนึกคารวะต่อบุญคุณที่ท่านได้ปกป้องรักษาแผ่นดินให้เรา
ยันยึดพื้นที่เป้าหมายเกือบหมดแล้ว
จากนั้นเวลา 11.00 น. นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า ด้านการทหาร กองทัพไทยทั้งสามเหล่าทัพสามารถยึดพื้นที่เป้าหมายที่เคยถูกรุกล้ำกลับคืนมาได้เกือบทั้งหมด และได้ผลักดันฝ่ายตรงข้ามถอนกำลังออกจากพื้นที่ พร้อมเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะรุนแรงเพิ่มเติม ยืนยันจุดยืนของประเทศไทยว่า ไม่เคยเป็นฝ่ายรุกรานหรือคุกคามประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ได้ละเมิดข้อตกลงหรือปฏิญญาใด ๆ การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปเพื่อสถาปนาอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ โดยหากต้องการยุติการปะทะ ต้องหยุดยิง หยุดคุกคาม และหยุดการรุกราน รวมถึงการใช้โดรนในพื้นที่ชายแดน เมื่อถามถึงการเจรจา
...
ย้ำ ไทย ไม่ได้ละเมิดก่อน
นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่มีการให้ประเทศใดเข้ามาเป็นคนกลาง เนื่องจากเป็นเรื่องระหว่างไทยกับกัมพูชาโดยตรง และยืนยันว่า แม้อยู่ในช่วงใกล้การเลือกตั้ง รัฐบาลยังคงมีอำนาจเต็มในการบริหารราชการแผ่นดิน ดูแลประชาชน และป้องกันประเทศ เมื่อถามถึงกรณีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในวันที่ 22 ธ.ค. นายอนุทิน กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศนำเสนอนโยบายและจุดยืนของประเทศไทยอย่างชัดเจน โดยยืนยันว่า ไทยไม่ได้เป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงหรือรุกรานประเทศเพื่อนบ้าน การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปเพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ ประเทศไทยยืนอยู่บนหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และต้องการยุติความสูญเสียโดยไม่ให้สถานการณ์บานปลาย
ดูแลสิทธิประโยชน์ผู้เสียชีวิตเต็มที่
นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะเดียวกัน รัฐบาลขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของทหารที่เสียชีวิต และยืนยันว่าจะดูแลสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ ทั้งบำเหน็จ ปูนบำเหน็จ และเงินชดเชยตามระเบียบที่กำหนดไว้ พร้อมย้ำว่าการสูญเสียครั้งนี้ไม่ควรถูกมองเป็นเพียงตัวเลข แต่คือชีวิตของผู้ที่อุทิศตนเพื่อชาติ และขอให้การเสียสละของทหารกล้า 2 นาย เป็น 2 ชีวิตสุดท้าย ส่วนการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการอพยพ จะมีการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่เป็นธรรม ครอบคลุมทุกครอบครัว