“พร้อมพงศ์” อดีตโฆษกเพื่อไทย หวั่นโยกย้ายข้าราชการบิ๊กล็อต เอื้อเลือกตั้ง 69 จี้ กกต. ตรวจสอบ บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม ย้ำประชาชนอยากเห็นเลือกตั้งขาวสะอาด

วันที่ 20 ธันวาคม 2568 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ภายหลังมีการยุบสภาและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศให้วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บรรยากาศทางการเมืองเริ่มคึกคัก มีการเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองและบุคคลทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง เริ่มมีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ก็มีสิ่งที่น่าตั้งข้อสังเกต ในห้วงเวลาที่เข้าสู่โหมดเลือกตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก่อนหน้านี้ จนถึงช่วงหลังการยุบสภา มีการโยกย้ายข้าราชการจำนวนมาก โดยเฉพาะในกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด อธิบดี นายอำเภอ ปลัดอำเภอ รวมถึงหน่วยงานอื่นที่มีความใกล้ชิดกับประชาชน ล้วนเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีนัยสำคัญทางการเมือง

นายพร้อมพงศ์ ระบุว่า นักวิเคราะห์การเมืองและผู้คนในสังคมจำนวนไม่น้อยตั้งข้อสังเกตว่า การโยกย้ายตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา เป็นการจัดวางกำลังของรัฐ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมืองในช่วงที่ประเทศกำลังเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งหรือไม่ ต้องไม่ลืมว่า ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ จะมีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลและสมาชิกสภา อบต. ทั่วประเทศ ประมาณ 4,994 แห่ง วันที่ 11 มกราคม 2569 และการเลือกตั้ง สส. ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 ถือเป็น 2 สนามการเมืองที่มีความเชื่อมโยงกัน ท้องถิ่นไปสู่ระดับชาติ

“ขอเรียกร้องผู้ที่กำกับดูแลกลไกอำนาจรัฐทุกระดับ ห้ามใช้ข้าราชการหรือกลไกรัฐเป็นเครื่องมือเอื้อประโยชน์ทางการเมืองให้กับตนเองและพวกพ้องอย่างเด็ดขาด ขอให้หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล เช่น กกต. ใช้มาตรการตรวจสอบ บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและจริงจัง เป็นมาตรฐานเดียวกันกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม”

...

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมาเราเผชิญสถานการณ์สู้รบชายแดน ไทยกับกัมพูชา ภัยพิบัติน้ำท่วม หาดใหญ่ ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง พืชผลการเกษตรตกต่ำ ปัญหาทางสังคม สแกมเมอร์ ภัยไซเบอร์ แต่ประชาชนจำนวนมากตื่นตัวและคาดหวังให้การเลือกตั้งในปี 2569 เป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม ปลอดจากการแทรกแซงจากผู้มีอำนาจในภาครัฐ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาธิปไตยไทยในสายตาประชาชนและสังคมโลก ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเช่นไร หากเป็นไปตามกติกาที่เท่าเทียม เป็นธรรม เลือกกันอย่างขาวสะอาดบริสุทธิ์ ยุติธรรม ทุกฝ่ายก็พร้อมยอมรับ แต่หากอำนาจรัฐถูกใช้เป็นผู้เล่นในสนามเลือกตั้ง ความขัดแย้งย่อมไม่จบ และประชาชนจะเป็นผู้รับผลกระทบมากที่สุด นายพร้อมพงศ์กล่าว