พรรคประชาชน จัดเวทีชักธงรบ เตรียมพร้อมเลือกตั้ง 2569 ประกาศ กทม. เหมา สส.ได้แน่ ส่วนเป้าหมาย 250 ที่นั่ง เพื่อผลักดันตั้งรัฐบาลประชาชน “กาย ณัฐชา” มั่นใจผู้สมัครเรามีคุณสมบัติครบ ขอวางใจได้
วันที่ 20 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายใต้แคมเปญ ชักธงรบ เตรียมความพร้อม กรุงเทพมหานคร ต้องชนะ พรรคประชาชนจัดกิจกรรมพบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนมุมมองการทำงานการเมือง พร้อมกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ในบรรยากาศเป็นกันเอง และร่วมวางพลังอนาคตไปด้วยกัน ซึ่งเชิญ นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ อดีต สส.บางขุนเทียน และว่าที่ผู้สมัคร สส.กทม. ฝั่งธนบุรี พรรคประชาชน มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับประชาชนในพื้นที่
นายศรายุทธิ์ กล่าวว่า ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ มีเป้าหมายสำคัญคือการสร้างประเทศไทยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน และมั่นใจว่าคนที่เข้ามาอยู่กับพรรคมีเป้าหมายเดียวกัน เวลาเปลี่ยนไปหลายปี วันนี้เติบโตขึ้น ยอมรับหลายคนอาจจะกังวลกับผลโพลต่างๆ ที่คะแนนนิยมของพรรคประชาชนลดลง แต่สำหรับตนเองที่รู้จักพรรคมานาน ยังคงมั่นใจจะไปได้ไกลกว่าเดิม และแข็งแกร่งกว่าเดิม ด้วยตัวเลขต่างๆ ที่เป็นเครื่องชี้วัด ทั้งจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น 30% เงินบริจาค 96 ล้านบาท จากคนหลักแสนคน ความนิยมที่ขยับจาก 10% เป็น 20-30%
“ดังนั้น พูดกับความเป็นไปได้ ว่าจะชนะการเลือกตั้ง ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หากดูจากตัวเลขเหล่านี้เป็นไปได้ แต่ความเป็นไปได้จะทำสำเร็จหรือไม่ต้องเกิดจากพวกเราทุกคนที่มาช่วย การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ไม่ใช่แกนนำไม่กี่คน แต่การเปลี่ยนแปลงและชัยชนะต้องมาจากพวกเราทุกคน และมั่นใจว่าสิ่งที่ผมพูดไปแล้วตัวเลขสมาชิกมากกว่าแสนคน ตัวเลขผู้บริจาคมากกว่าแสนคน สิ่งเหล่านี้เป็นพลังสำคัญที่ทำให้ 250 เป็นจริงได้อย่างแน่นอน”
...
นายศรายุทธิ์ ยังกล่าวต่อไปว่า ปัญหาเรื่องสแกมเมอร์และทุนสีเทาเบียดบังคนไทยทุกมิติ ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ตกต่ำมาก ได้ข่าวแม่ สส. ก็ยังโดนหลอกลวงไปนับล้านบาท คิดว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้มาถึงจุดที่ตกต่ำมาก ซึ่งมีรากฐานเดียวกันคืออำนาจที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชนเข้ามากำหนดความเป็นไปของประเทศ มีระบบเส้นสายที่ทำให้คนเหล่านั้นเข้ามาได้ ดังนั้น เลือกตั้งครั้งนี้จึงสำคัญ เพราะคือโอกาสในรอบ 15 ปี ที่จะทำให้ประชาชนเป็นผู้กำหนดว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล และขออย่ากังวลเรื่องคะแนนนิยม เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือการตื่นตัวของประชาชน จึงมั่นใจรอบนี้ได้มากกว่าเดิมแน่นอน แต่จะไปได้ไกลแค่ไหนขึ้นอยู่กับประชาชนทุกคน
“เมื่อไหร่เข้าสู่การเลือกตั้ง นั่นคือโอกาสในการสร้างการเปลี่ยนแปลงจริงๆ เพราะโอกาสเลือกตั้งจะมีส่วนร่วมที่จะผลักดันเพื่อความสุข”
ขณะที่ นายณัฐชา กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคอนาคตใหม่จนมาเป็นพรรคก้าวไกล ประสบความสำเร็จ มีความใฝ่ฝันว่าจะเป็นทั้งอันดับ 1 ซึ่งทำได้แล้ว นำ สส.เข้าสู่สภาฯ 151 ที่นั่ง แต่มีอุปสรรคมาฉุดรั้งให้พรรคอันดับ 1 ไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ครั้งนี้จึงมีเป้าหมายใหม่ จะจัดตั้งรัฐบาลประชาชนให้ได้ เพราะฉะนั้นก้าวแรกที่เริ่มจากตรงนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนมาร่วมกันทำภารกิจให้สำเร็จ เพราะการเลือกตั้งเป็นการเปลี่ยนแปลงอนาคตที่ลงทุนน้อยที่สุด ขอให้ออกมาเป็นหัวคะแนนธรรมชาติอีกครั้ง
จากนั้นได้ให้ว่าที่ผู้สมัคร สส.ฝั่งธนบุรี แนะนำตัว รวมไปถึงความมุ่งมั่นตั้งใจจะเข้าไปเป็นผู้แทนราษฎร โดยบางช่วงบางที่แนะนำว่าที่ผู้สมัคร สส.เขตจอมทอง-บางขุนเทียน นายณัฐชา ยังได้ถือโอกาสขอโทษประชาชนและขอโอกาสอีกครั้ง เนื่องจากว่าเขตนี้มีปัญหาทั้งสมัยพรรคอนาคตใหม่ ที่เป็นงูเห่า และสมัยพรรคก้าวไกล ก็ถูกร้องเรียนคุกคามทางเพศ
ต่อมา นายณัฐชา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เราได้ สส. 32 เขต และรอบนี้เราจะได้เพิ่มอีก 1 เขต เป็น 33 เขต คาดว่าพื้นที่ กทม. ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ที่ระบุว่าเราจะกวาดที่นั่งทุกพื้นที่ใน กทม. หลายสื่อก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายเราก็ทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เกิดขึ้นจริงในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อว่าชาว กทม. จะยังสนับสนุน ผู้สมัคร สส. และนโยบายของพรรค เพราะเรามีทีมบริหารและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน และรองนายกรัฐมนตรีที่ได้เปิดตัวไปแล้ว ที่จะเพิ่มการตัดสินใจให้กับประชาชนได้มากพอสมควร
ขณะเดียวกัน นายณัฐชา ยืนยันและมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะสามารถชนะได้ทั้ง 33 เขตของ กทม. ในฐานะที่ดูพื้นที่ของ กทม. เห็นตัวผู้สมัครครบทั้ง 33 คนแล้ว เรามั่นใจว่าผู้สมัครของเรามีคุณสมบัติครบ เพียบพร้อมที่จะทำให้คนกรุงเทพฯ ตัดสินใจ และวางใจได้ในการทำหน้าที่ตัวแทนของพวกเรา.