นายกฯ ยืนยันรัฐบาลไทยมุ่งมั่นต่อต้านสแกมเมอร์ ย้ำอาชญากรรมหลอกลวงออนไลน์เป็นภัยคุกคามระดับโลก ขอนานาชาติรวมพลังผลักดัน “แถลงการณ์ร่วมกรุงเทพฯ” พรุ่งนี้ ก้าวสำคัญขับเคลื่อนความร่วมมือระดับโลก
เมื่อเวลา 18.30 น. ณ ห้อง Ballroom 1 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษและร่วมงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำผู้เข้าร่วมการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยหุ้นส่วนระดับโลกเพื่อต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต (International Conference on the Global Partnership against Online Scams) ซึ่งเป็นการประชุมที่ประเทศไทยเป็นผู้ริเริ่มและเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นร่วมกับสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ระหว่างวันที่ 17–18 ธันวาคม 2568 เพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนระดับโลกในการต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต (online scams)
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสกล่าวในงานเลี้ยงรับรองฯ พร้อมขอบคุณผู้เข้าร่วมการประชุมจากทุกภาคส่วน และยืนยันถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของรัฐบาลไทยในการต่อต้านการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต หรือ online scams โดยการเข้าร่วมของผู้แทนจากหลายภูมิภาคทั่วโลกในครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า “อาชญากรรมหลอกลวงออนไลน์ไม่ใช่เพียงปัญหาในระดับภูมิภาคอีกต่อไป หากแต่เป็นปัญหาระดับโลกที่ทุกประเทศต้องเผชิญร่วมกัน” และการรวมตัวกันของนานาประเทศในครั้งนี้ สะท้อนถึงเจตนารมณ์ร่วมกันในการทำงานอย่างเป็นเอกภาพเพื่อรับมือกับภัยคุกคามดังกล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงประสบการณ์จากการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนและเอเปคที่ผ่านมา ซึ่งผู้นำหลายประเทศได้หยิบยกประเด็นปัญหาอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตขึ้นมาหารืออย่างต่อเนื่อง โดยเห็นพ้องกันว่า ไม่ว่าประเทศจะอยู่ในภูมิภาคใด หรือมีระดับการพัฒนาอย่างไร ประชาชนล้วนตกเป็นเป้าหมายของเครือข่ายอาชญากรรมที่อาศัยช่องว่างของระบบกฎหมายในการแสวงหาประโยชน์ ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงทั้งต่อมนุษย์และระบบเศรษฐกิจโลก
...
“ปัญหาดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางร่วมกันของประชาคมโลก ซึ่งไม่มีประเทศใดสามารถแก้ไขได้เพียงลำพัง จึงจำเป็นต้องอาศัยเจตจำนงทางการเมืองที่เข้มแข็งและความร่วมมืออย่างจริงจังระหว่างประเทศ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญกับการต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตอย่างจริงจังของรัฐบาล โดยกำหนดให้เป็นวาระสำคัญสูงสุดของรัฐบาลและเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมทั้งได้ดำเนินมาตรการเชิงรุก อาทิ การเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการบังคับใช้กฎหมาย การจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะทางและศูนย์ต่อต้านการหลอกลวงโดยเฉพาะ รวมถึงการยกระดับการประสานงานระหว่างหน่วยงานภายในประเทศ เพื่อขจัดเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่ดำเนินการอยู่ในอาณาเขตของประเทศไทย
บทเรียนสำคัญจากการหารือในที่ประชุมครั้งนี้ คือ การดำเนินการในระดับชาติที่เข้มแข็งจำเป็นต้องควบคู่ไปกับความร่วมมือในระดับนานาชาติ เนื่องจากเครือข่ายอาชญากรสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข้ามพรมแดน เคลื่อนย้ายเงินได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่วินาที และปรับตัวได้เร็วกว่าระบบในประเทศ ดังนั้น การตอบสนองของประชาคมโลกจึงจำเป็นต้องมีการประสานงานอย่างใกล้ชิด มีความชาญฉลาด และมีความมุ่งมั่นในระดับเดียวกัน
นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ถึงเวลาแล้วที่ประชาคมโลกจะต้องยกระดับการหารือไปสู่การลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนข่าวกรองและข้อมูล การยกระดับการบังคับใช้กฎหมายข้ามพรมแดน และการสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต พร้อมระบุว่า การประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยหุ้นส่วนระดับโลกเพื่อต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต และ “แถลงการณ์ร่วมกรุงเทพฯ (Bangkok Joint Statement)” ที่จะมีการพิจารณาในวันพรุ่งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือดังกล่าว
“อาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตเติบโตขึ้นได้จากการขาดความร่วมมือที่เป็นเอกภาพ แต่จะอ่อนแรงลงเมื่อทุกประเทศรวมพลังกันเป็นหนึ่งเดียว โดยประเทศไทยพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกประเทศและทุกภาคส่วน เพื่อเปลี่ยนการหารือในครั้งนี้ให้กลายเป็นความร่วมมือที่ยั่งยืน และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในการต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตในระดับโลก” นายกรัฐมนตรี กล่าว
และทิ้งท้ายว่า ขอให้ทุกท่านมีความสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ เมื่อเราร่วมมือกัน ประเทศไทยพร้อมที่จะทำงานร่วมกับการหารือในวันนี้ทั้งหมด เพื่อรักษาความร่วมมือและผลลัพธ์ที่แท้จริง และขออวยพรให้มีการอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ต่อไปในวันพรุ่งนี้ และขอบคุณมากที่มีงานสำคัญนี้ แม้จะเป็นช่วงเวลานี้ของปี ที่ท่านควรเฉลิมฉลองวันหยุดที่บ้านอย่างมีความสุข เพลิดเพลินกับเทศกาลต่างๆ กรุณามาร่วมกันและประชุมกันในงานสำคัญนี้ และนี่จะแสดงให้ผู้คนที่อยู่ฝ่ายเราทราบว่า เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อสนุกสนานในกรุงเทพฯ แต่เรามาที่นี่เพื่อปราบปรามสแกมเมอร์