โฆษกกลาโหม แถลงภาพรวมสถานการณ์ชายแดน ตั้งแต่เช้ากัมพูชาระดมโจมตีเนิน 677 - เนิน 350 - ปราสาทตาควาย ยัน ไทยจะไม่หยุดยั้ง ต้องตอบโต้ป้องกันตนเอง ย้ำ 3 เงื่อนไขเจรจาหยุดยิงกัมพูชาต้องจริงใจ


เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 16 ธันวาคม 2568 ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ททบ.5 พล.ร.ต.สุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชายังคงเปิดฉากโจมตีโดยใช้จรวดหลายลำกล้อง (BM-21) โจมตีเข้ามาในพื้นที่ โดยเฉพาะเมื่อเวลา 07.00 น. ฝ่ายกัมพูชาระดมโจมตีเนิน 677 บริเวณพื้นที่ช่องอานม้า

ต่อมาเวลา 11.00 น. ใช้จรวดหลายลำกล้องโจมตีเนิน 350 ที่อยู่ใกล้เคียงกับปราสาทตาควาย และในเวลา 12.00 น. ใช้จรวดหลายลำกล้องระดมโจมตีเข้าใส่ตัวปราสาทตาควายที่อยู่ในความควบคุมของฝ่ายไทย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้ฝ่ายไทยจะควบคุมพื้นที่ต่างๆ ได้แล้ว ก็ยังคงต้องระวังการโจมตีกลับของฝ่ายกัมพูชาอย่างรอบคอบ ตามนโยบายของผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยสถานการณ์ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงและมีพลวัตอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าฝ่ายไทยจะไม่หยุดยั้ง และจะต้องตอบโต้การโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเพื่อป้องกันตนเอง

ทางด้านปฏิบัติการของกองทัพเรือในวันนี้ ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีมติให้ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล (ศรชล.) ควบคุม กำกับ ดูแลปฏิบัติการในพื้นที่ โดยให้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การแจ้งเตือนเรือไทยที่จะเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง รวมทั้งประสานกับกรมเจ้าท่าเพื่อตรวจตราเรือไทยที่อาจขนส่งสินค้าที่เอื้อต่อการสงครามไปยังกัมพูชา โดยขณะนี้ สมช. มีมติให้ควบคุมการขนส่งน้ำมันและยุทธปัจจัยทางทะเล สำหรับเรือพาณิชย์ที่ขึ้นทะเบียนสัญชาติไทย อย่างไรก็ตาม มติดังกล่าวยังไม่มีการบังคับใช้อย่างเป็นทางการ เนื่องจากมีกระบวนการที่ต้องใช้เวลาในการกลั่นกรอง นำไปสู่การออกกฎระเบียบสำหรับบังคับใช้อย่างเป็นทางการ

...

ย้ำ 3 เงื่อนไขเจรจาหยุดยิง กัมพูชาต้องจริงใจ

โฆษกกระทรวงกลาโหม ยังได้เน้นย้ำถึงเงื่อนไข 3 ประเด็นของฝ่ายไทยที่จะนำไปสู่การหยุดยิง ได้แก่ กัมพูชาจะต้องเป็นฝ่ายเสนอให้เกิดการหยุดยิงก่อน การหยุดยิงดังกล่าวต้องเกิดขึ้นอย่างจริงจังและต่อเนื่อง และฝ่ายกัมพูชาจะต้องร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนอย่างจริงจัง และจริงใจ ซึ่งในประเด็นนี้ ต้องติดตามต่อไปว่า ฝ่ายกัมพูชาจะตอบรับหรือแสดงความจริงใจอย่างไร ขณะที่ผลกระทบต่อภาคประชาชนไทยในขณะนี้ มีผู้ที่อพยพมาอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวทั้งสิ้น 263,285 คน โดยมีการตั้งศูนย์พักพิง 996 จุด มีประชาชนที่เสียชีวิต เฉพาะที่ได้รับผลกระทบทางอ้อมจากเหตุการณ์ 15 ราย มีประชาชนที่เสียชีวิตจากการโจมตีของกัมพูชาโดยตรง 1 ราย และมีประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของกัมพูชา 6 ราย โรงพยาบาลได้รับผลกระทบ 20 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ได้รับผลกระทบ 214 แห่ง

ทร. ยันยกเลิกประกาศเคอร์ฟิว จ.ตราด

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เราไม่ต้องการให้ผลกระทบจากการปะทะในห้วงเวลาที่ผ่านมามีผลต่อพี่น้องประชาชนหรือหากมีก็จะให้น้อยที่สุด เช่น การประกาศเคอร์ฟิว ซึ่งเราประกาศเพื่อการควบคุมชีวิตและทรัพย์สิน ความปลอดภัยของประชาชน และเพื่อการตรวจสอบป้องกันสายลับหรือความพยายามที่จะก่อวินาศกรรมในพื้นที่ โดยในพื้นที่ จ.ตราด สามารถควบคุมสถานการณ์ได้

ขณะที่ เรือโทหญิงนภัสกร ทิพย์โส ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ แถลงยืนยันว่า มีการยกเลิกประกาศเคอร์ฟิว จ.ตราด เนื่องจากปัจจุบันควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ได้ และให้ประชาชนจะได้กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

พาณิชย์เผย สู้รบไทย-กัมพูชา กระทบการค้าชายแดนระยะสั้น

ต่อมา นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวถึงสถิติการค้าตามแนวชายแดนไทยในภาพรวมภายใต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า นับตั้งแต่ปิดด่านการค้าของประเทศไทย ไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อการค้า โดยเฉพาะการส่งออกของไทยในภาพรวม ส่วนประชาชนและกลุ่มผู้ประกอบการได้รับผลกระทบอยู่บ้างในฐานะกระทรวงพาณิชย์ดูแลค่าครองชีพ โดยกระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำหลายโครงการ เพื่อให้ประชาชนมีค่าครองชีพที่คงที่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ในขณะที่สินค้าที่ค้าขายสามารถจัดหาได้โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น โครงการธงฟ้า

ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าสถานการณ์ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี จะผ่อนคลาย หลังพบว่าน้ำมันส่งจากไทย ทาง สปป.ลาว ยืนยันนำใช้หมุนเวียนภายในประเทศ ไม่ได้ส่งต่อ ส่วนการกลับมาเปิดด่านตามปกติ เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง พร้อมให้ความมั่นใจว่าเราจะผ่านในช่วงวิกฤติสั้นๆ นี้ไปได้ โดยกระทรวงพาณิชย์ พร้อมจะทำงานกับข้าราชการกองทัพและภาคธุรกิจช่วยกันนำพาเศรษฐกิจภาคการค้าของเราผ่านช่วงวิกฤติในช่วงลำบากนี้ ไปได้ด้วยดี

ทางด้าน นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านสื่อสารการตลาด เผยว่า สำหรับการท่องเที่ยวในปัจจุบันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาต่อเนื่อง จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.ภูเก็ต จ.กระบี่ จ.ชลบุรี ไม่มีการยกเลิกแต่อย่างใด ขณะนี้มีจำนวน 31.1 ล้านคน เป้าหมายปลายปี 32 ล้านคน พร้อมทั้งยอมรับว่าต่างประเทศมีความเป็นห่วงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ได้แจ้งเตือนประชากรของตัวเอง และอาจยกเลิกการเดินทางไปสู่ภูมิภาคอื่นไปบ้าง.